Sideway Down

โดยดัชนีได้แรงหนุนจากการกลับเข้ามาซื้อในกลุ่มท่องเที่ยวและพลังงาน นอกจากนี้ นักลงทุนสถาบันกลับเข้ามาซื้อสุทธิกว่า 2 พันลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,524.59 จุด (+11.33 จุด) Volume 6.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,758.29 ลบ. TFEX Net  +23,029 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 11.60 จุด +0.04% หลังจากบริษัทจดทะเบียนบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการดีเกินคาด แต่ดัชนีขยับขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED แสดงความกังวลถึงไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองพุ่งขึ้น 7.2% หลังดอกเบี้ยเงินกู้ร่วง

+รัฐสภายุโรปลงคะแนนเสียงท่วมท้น 621-49 งดออกเสียง 13 เสียง เห็นชอบต่อข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

+/- FED มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

+/- WHO เตรียมจัดประชุมฉุกเฉินพรุ่งนี้ประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 15 เซนต์ -0.3% ปิด 53.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสูงกว่าคาด สร้างกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาด

-สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง 4.9% ในเดือนธ.ค.

-จีนเผยยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทะลุ 6,000 ราย แซงหน้า SARS ในปี 2546

-กระทรวงการคลัง.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2563 เหลือ  ขยายตัว 2.8% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.3%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 12,014.68 ลบ. ค่าเงินบาท 30.96 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ GDP ไตรมาส 4/2562

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัว Sideway Down โดยคาดว่านักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย หลังประธานเฟดได้กล่าวว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายังมีความไม่แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกมากเพียงใด ขณะที่ที่ปัจจัยในประเทศยังคงถูกกดดันจากศาลรธน.มีมติรับวินิจฉัย พรบ.งบประมาณปี 63  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,510-1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (BH BCH BDMS)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU CPF)
• หลีกเลี่ยงกลุ่มสายการบิน (THAI AAV NOK) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW MINT)

หุ้นรายงานพิเศษ

ORI Analyst Meeting Bloomberg Consensus 9.04 บาท

Kick off โครงการสร้างรายได้ประจำ

 

• ผู้บริหารพานักวิเคราะห์เยี่ยมขมโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ ขนาด 303 ห้องที่เริ่มเปิดบริการเมื่อ 15 ม.ค. 63 ซึ่งสามารถเข้าพักได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และยังมีโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีท ศรีราชา-แหลมฉบังที่จะเริ่มบริการในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ รวมทั้ง 2 แห่ง 830 ห้อง เป็นความคืบหน้าตามแผนสร้างรายได้ประจำเพื่อลดความผันผวนของรายได้จากการขายอสังหาฯในช่วงตลาดซบเซา
• ยอดจองเข้าพักหลังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ชะลอไม่มากเนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นนักธุรกิจ
• แผนในอนาคตตั้งเป้ามีโรงแรม 11 โครงการ รวม 3,420 ห้อง ในปี 2566 จากการสร้างเองและซื้อ โดยเป็นโครงการร่วมทุนถือหุ้น 51%
• ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากการพัฒนาโครงการสร้างรายได้ประจำคืบหน้าตามแผน และมีโครงการ mixed useในพื้นที่ EEC รองรับการโปรโมทการลงทุนในพื้นที่ EEC ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ PE ต่ำเพียง 5 เท่า IAA คาด yield เฉลี่ย 7% แนะนำ ถือ รอรับปันผล

หุ้นมีข่าว   

(-) ADVANC (Bloomberg Consensus 249.38 บาท)   อนุญาโตฯ ชี้ขาดสั่ง ADVANC จ่าย TOT กว่า 31,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน กรณีข้อพิพาทแก้ไขสัญญาการลดส่วนแบ่งรายได้พรีเพดและหักค่าใช้จ่ายโรมมิ่ง ฟาก ADVANC ยันข้อพิพาทยังไม่สิ้นสุด ไม่กระทบฐานะการเงิน-สภาพคล่อง-ความสามารถชำระหนี้ จ่อยื่นคำร้องขอเพิกถอนต่อศาลปกครองกลางภายใน 90 วัน (ที่มา ข่าวหุ้น)

ความเห็น : เรามองว่าเป็นเพียงประเด็นลบระยะสั้น เนื่องจากอุตสาหกรรม ICT ในประเทศไทยที่ผ่านมา ได้เผชิญกับข้อพิพาทในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง  ซึ่งคำสั่งอนุญาโตฯดังกล่าวยังถือว่าข้อพิพาทยังไม่สิ้นสุด และต้องดำเนินงานบนชั้นศาลต่อไป

(-) กลุ่มแบงก์-รับเหมาอ่วม หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องร่างพ.ร.บ.งบฯปี 63 เป็นโมฆะ โบรกฯมองหากงบฯออกไม่ทันเดือนมี.ค.นี้ กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้แน่นอน CK, STEC ขาดเม็ดเงินลงทุนภาครัฐ ขณะที่ BBL, SCB, KBANK, KTB โดนหางเลขรับเหมารายใหญ่ไม่กู้ ด้านคลังปรับลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 2.8% เสียวหลุดแนวรับ 1,500 จุด (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) STARK (Bloomberg Consensus - บาท)   แจ้ง “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 90.30% เตรียมขายหุ้นในมือ 1,320 ล้านหุ้น ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ หวังเพิ่มฟรีโฟลตหลังพ้นไซเลนต์ พีเรียด เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พร้อมเตรียมแผนออกหุ้นกู้ 150 ล้านเหรียญฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BEM (Bloomberg Consensus 11.74 บาท)  “กทพ.” ส่งร่างสัญญาขยายสัมปทาน BEM ถึงกระทรวงคมนาคมแล้ว จ่อชงเข้าครม.เร็วๆ นี้  “สุรงค์” ย้ำหากเซ็นสัญญาไม่ทัน 29 ก.พ. 63 ก่อนด่วนขั้นที่ 2 หมดอายุ มีแผนสำรองจ้าง BEM บริหารชั่วคราว ขณะที่ล่าสุดวานนี้ลงนามสร้างด่วนพระราม 3 สัญญา 2 วงเงิน 6.4 พันล้านบาทกับกลุ่มผู้รับเหมาจีนมี “ไชน่าฮาร์เบอร์” เป็นแกนนำ (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) STA (Bloomberg Consensus 12.56 บาท)  เข้าไฮซีซัน ออเดอร์ถุงมือยางไหลเข้าหลังไวรัสโคโรนาระบาดหนุนโค้งแรกพีค วางหมากยอดขายทั้งปีโต 35% จากปีก่อนคาดทำได้ 2 พันล้านชิ้น อานิสงส์พอร์ตลูกค้าโต กำลังผลิตใหม่หนุน ยิ้มรับบาทอ่อนหนุน โบรกชูสตอรี่เด่น (ที่มา ทันหุ้น)

 (+) KBANK (Bloomberg Consensus 161.49 บาท) ตั้งเป้าสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 4-6% ด้าน NIM ขยับขึ้น 3.1-3.3% สอดรับดอกเบี้ยขาลง ขณะที่มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 กดดันรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยหดตัว -5 ถึง -17% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCC (Bloomberg Consensus 392.83 บาท)  ใจป้ำ! แจกปันผลหุ้นละ 7.00 บาท ขึ้น XD วันที่ 27 เมษายนนี้ พร้อมเดินหน้าเล็งทุ่มงบ 6-7 หมื่นล้านบาท ขยายฐานทั้งในและต่างประเทศ ปูทางโกยเงินระยะยาว แถมดัน "เอสซีจี แพคเกจจิ้ง" เข้าตลาดหุ้นไทย ระดมทุน-อัพแกร่งระยะยาว หวังชัดเจนครึ่งแรกปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)