เปิดสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น 'กลางวิกฤติอู่ฮั่น'

เปิดสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น 'กลางวิกฤติอู่ฮั่น'

ระหว่างที่ชาวต่างชาติติดอยู่กับสภาพความยากลำบากหลังไวรัสโคโรน่าระบาดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ของจีน เชื่อว่าทุกรัฐบาลต่างหาหนทางเอาคนของตนออกมา ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่นำพลเมืองของตนถึงมาตุภูมิแล้วในเช้าวันนี้ (29 ม.ค.)

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ถ้ามองจากภาพรวมเอเชียตะวันออก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้เคยเจ็บปวดจากประวัติศาสตร์บาดแผลช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นยึดครองเพื่อนบ้านเป็นอาณานิคม เมื่อวันเวลาผ่านไปความขัดแย้งกลายเป็นความร่วมมือ กระนั้นความสัมพันธ์สามเส้าก็ยังมีเรื่องระหองระแหงกันอยู่เล็กๆ เช่น ความขัดแย้งระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจ 

ล่าสุดผู้นำ 3 ชาติประชุมสุดยอดกันเมื่อวันที่ 24-25 ธ.ค.2562 ที่นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ทั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ได้หารือทวิภาคีกันนอกรอบการประชุม  สีกล่าวว่า ยินดีที่จะรักษาการสืื่อสารกับญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด พร้อมเสริมสร้างการให้แนวทางทางการเมือง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของสองประเทศให้ก้าวไปสู่ระดับสูงขึ้น และสร้างผลประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองฝ่ายให้มากขึ้น

ด้านนายกฯ อาเบะ กล่าวว่า ญี่ปุ่นและจีนดำเนินการแลกเปลี่ยนระดับสูงบ่อยครั้ง ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน สร้างความสัมพันธ์เชิงบวกต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ 

ที่สำคัญคือ อาเบะเสริมว่า ญี่ปุ่นรอคอยโอกาสที่ประธานาธิบดีสี จะเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ผลิปี 2563 

กรณีนี้มองได้ว่า ในช่วงที่จีนมีปัญหากับสหรัฐ ญี่ปุ่นมีปัญหากับเกาหลีใต้ การที่จีนจะมาใกล้ชิดกับญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นี่น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งนอกเหนือจากการประสานการอพยพคนออกมาเป็นอย่างดี ทำให้ญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่นำพลเมืองของตนออกจากอู่ฮั่นได้เป็นชาติแรก