ถอดบทเรียนการบริหาร 'ฮิงะชิคะวะ' เมืองเล็กที่น่าเที่ยวของญี่ปุ่น

ถอดบทเรียนการบริหาร 'ฮิงะชิคะวะ' เมืองเล็กที่น่าเที่ยวของญี่ปุ่น

“ฮิงะชิคะวะ” เมืองที่มีธรรมชาติสวยงามจนกลายเป็นอีกเมืองที่น่าอยู่และน่าเที่ยวของญี่ปุ่น “อิจิโระ มัตสึโอกะ” นายกเทศมนตรี 5 สมัยแห่งเมืองฮิงะชิคะวะ ฮอกไกโด ผู้สร้างให้เมืองเล็กๆ กลายเป็นเมืองแห่งภาพถ่ายที่มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ฮิงะชิคะวะ คือเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

และใช่.. เมื่อพูดชื่อเมืองนี้ขึ้นมา คงแทบไม่มีคนไทยคนไหนร้องอ๋อ

เมืองเล็กขนาด 247 ตารางกิโลเมตรที่มีประชากรกว่า 8,000 คน ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านที่ง่ายต่อการเดินทางไปยังภูเขาอะซะฮิดะเกะ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดและได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งเกาะฮกไกโด มีหน้าที่เพียงแค่ “ทางผ่าน” ซึ่งแทบไม่มีใครสนใจ ทำให้เมืองนี้เกิดความเงียบเหงาขึ้นมา

หากแต่ชายที่ชื่อ อิจิโระ มัตสึโอกะ เข้ามาเปลี่ยนแปลงเมืองนี้จนเกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นหลายประการ เปลี่ยนโฉมหน้าของเมืองที่ไม่มีจุดเด่น กลายเป็นเมืองที่มีกิมมิคที่น่าสนใจผ่าน 4 องค์ประกอบเด่นของเมืองคือ  ข้าว น้ำ ไม้ และภาพถ่าย นอกจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นแล้ว จำนวนประชากรที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองและจำนวนประชากรที่เกิดใหม่ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จนกลายเป็นแกนหลักที่ทำให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงโตเกียว หยิบปรากฎการณ์นี้ไปศึกษาเป็นงานวิจัย ที่ต่อยอดเป็นหนังสือ Higashikawa Style ที่มียอดขายกว่าหมื่นเล่มอีกด้วย

ฉันในฐานะนักเรียนผู้ได้รับทุนเรียนภาษาฟรีจากรัฐบาลเมืองฮิงะชิคะวะ ได้โอกาสเข้าพบท่านอิจิโระเป็นกรณีพิเศษ เพื่อสนทนาแบบใกล้ชิดถึงวิธีคิดเชิงนโยบาย หรือการจัดการเพื่อปรับโครงสร้างและต่อยอดแนวทางการบริหารเมืองผ่านสายตาของชาวเมืองฮิงะชิคะวะที่เติบโตมากับเมืองนี้จริงๆ จนทำให้เมืองนี้มีจุดเด่นและน่าจับตาในเชิงการพัฒนาเมือง 

และในเชิงการท่องเที่ยว ฮิงะชิคะวะก็เป็นเมืองรองที่น่าเที่ยวไม่ต่างกับเมืองหลักเลย

158030374875      “อิจิโระ มัตสึโอกะ” นายกเทศมนตรี 5 สมัยแห่งเมืองฮิงะชิคะวะ ฮอกไกโด

- พ่อเมืองที่โตมากับเมือง - 

“ตอนเด็กๆ คุณฝันอยากเป็นอะไร” ฉันเริ่มบทสนทนาในห้องทำงานของท่านด้วยคำถามที่เรียบง่าย

“เด็กๆ ผมอยากเป็นนักกีฬาเบสบอลครับ” คุณอิจิโระตอบคำถามของฉันก่อนจะหัวเราะออกมา

ปฎิเสธไม่ได้ว่า เด็กหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยที่เติบโตมากับทีวีและกีฬาเบสบอล ต้องอยากเป็นนักกีฬาเบสบอลอยู่แล้ว ยิ่งคุณอิจิโระได้เห็นลีลาการตีลูกเบสบอลของชิเกะโอะ นากะชิมะ นักเบสบอลมืออาชีพในตำนาน ทำให้เด็กหนุ่มเหล่านั้นอยากที่จะเติบโตเป็นเหมือนเขา

แต่สุดท้าย เด็กชายอิจิโระ มัตสึโอกะ ก็ไม่ได้เติบโตมาเป็นนักกีฬาเบสบอล

ชีวิตของเขาก็คล้ายคลึงกับเด็กคนอื่นๆ ในญี่ปุ่น เล่าเรียนหนังสือตามกระบวนการแล้วก็หางานทำ จนท่านได้งานแรกในชีวิตที่สำนักงานเทศบาลเมืองฮิงะชิคะวะ ในฐานะเจ้าหน้าที่ธุรการ

และเชื่อหรือไม่ นับแต่นั้นมา คุณอิจิโระไม่เคยย้ายที่ทำงานอีกเลย

“งานแรกๆ ที่ผมได้ทำก็อย่างเช่นการจัดเตรียมสถานที่เพื่อการประชุม หรือสรุปวาระการประชุมต่างๆ จนผมก็เริ่มขยับขยายเป็นหัวหน้าฝ่ายและแผนกต่างๆ ตามการเติบโตของงานครับ

“แต่ผมก็ไม่ได้ไปทุกแผนกนะครับ”

เพราะหลายแผนกที่ท่านไม่ได้เข้าไปยุ่งย่ามหรือมีบาทบาทนั้นได้แก่ แผนกพยาบาล, หน่วยงานดับเพลิง หรือสวัสดิการ เป็นต้น แต่การที่ท่านไม่ได้เข้าไปยุ่งย่ามในส่วนงานต่างๆ นี้ ทำให้ท่านเกิดความสงสัยใคร่รู้และอยากเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในเมืองให้มีความทันสมัยและสนุกมากยิ่งขึ้น

เป็นเวลากว่า 45 ปีที่คุณอิจิโระใช้ชีวิตอยู่ในสำนักงานเทศบาลแห่งนี้ มีความเปลี่ยนเกิดขึ้นอย่างเป็นปกติตามกฎธรรมชาติอยู่แล้ว ทั้งอาคารสำนักงานที่ขยายเป็นอาคารต่างๆ และแผนกการบริหารจัดการต่างๆ ที่มากขึ้น

แต่ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งระหว่างช่วงที่พนักงานตัวเล็กๆ คนหนึ่ง กำลังทำงานอย่างแข็งขัน

ความเปลี่ยนแปลงนั้นจะทำให้ชีวิตการทำงานของชายที่ชื่ออิจิโระ มัตสึโอกะ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

158030374865

- ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ -

ระหว่างที่คุณอิจิโระยังเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในเทศบาลเมืองฮิงะชิคะวะ มีเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญและสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับเมืองฮิงะชิคะวะและเมืองใกล้เคียง คือการรวมเมืองเล็กเมืองน้อยรอบๆ เมืองอะซะฮิคะวะ ให้กลายเป็นเมืองใหญ่เมืองเดียว

การควบรวมเมืองทั้งฮิงะชิคะวะ ฮิมะชิกุระ บิเอ โทมะ และเมืองอื่นๆ โดยรอบมีข้อดีคือ ทำให้ส่วนการบริหารนั้นคล่องตัวยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายให้ประชากรในเมืองนั้นๆ ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างที่ควรจะเป็น แต่ในขณะเดียวกัน กลับเกิดข้อเสียอย่างมหันต์เช่นกัน เมื่อเกิดการควบรวมเมืองเป็นหนึ่งเดียว

“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมลงสมัครนายกเทศมนตรีเลยนะครับ” คุณอิจิโระบอกฉัน

“จริงๆ นโยบายการควบรวมเมืองที่ส่วนกลางส่งลงมา ทางเจ้าหน้าที่ข้าราชการไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เขายังมีงานและรับเงินเดือนตามปกติ แต่ชาวบ้าน ชาวเมืองเขาก็จะหวั่นไหวว่า ถ้าเกิดการรวมตัวกับเมืองใหญ่พวกนั้น ประชากรคงย้ายเข้าเมืองไปหมด แล้วหลายๆ ครัวเรือนที่ยังต้องอยู่ในเมืองเค้าจะทำอาชีพอะไรกัน ก็จะกลายเป็นเมืองร้างไป และรวมถึงผมเองอยากให้ฮิงะชิคะวะยังเป็นเมืองอยู่ และที่สำคัญที่สุดคือ ผมอยากปกป้องเมืองนี้จากอิทธิพลที่นายกเทศมนตรีคนก่อนถูกล้างสมองให้เชื่อไปแล้วว่าการรวมเมืองเป็นเรื่องดี ผมเลยลงสมัครครับ” คุณอิจิโระเล่า

นอกจากการชูนโยบาย “ไม่รวมเมือง” ที่เป็นจุดขายสำคัญของการหาเสียงแล้ว คุณอิจิโระเลือกใช้แคมเปญ “คนรุ่นใหม่” ซึ่งเป็นการให้ประชากรเล็งเห็นความสำคัญของผู้นำที่มีอายุน้อย เพื่อเกิดการบริหารที่ใหม่ขึ้น ทันสมัยขึ้น สองนโยบายสำคัญนี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้คุณอิจิโระได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีในที่สุด

158030374720

- เมื่อพระเอกคือการเกษตรกรรม -

ผลผลิตสำคัญของเมืองฮิงะชิคะวะคือ สินค้างานไม้ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งงานคราฟต์ เช่น เสื้อผ้าดีไซน์สวยงาม และของกระจุกกระจิกอีกมาก

นอกจากนี้ การเกษตรกรรม คือผลผลิตสร้างชื่อและสร้างรายได้อย่างงามของเมืองฮิงะชิคะวะ

“สามสิ่งที่กล่าวมามีความสำคัญมากครับ เพราะว่าประชากรโดยรวมทั้งหมดของเมืองมีทั้งเกษตรกร ช่างงานไม้ งานคราฟต์ต่างๆ แล้วสินค้าทั้งหมดก็เกี่ยวข้องกับการตอ้นรับท่องเที่ยวหรือทำให้ร้านค้าต่างๆ อยู่ได้ แล้วทั้งสามอย่างนี้มันก็เลยเชื่อมคนเหล่านี้และทำให้ทุกคนมีชีวิตอยู่ได้”

แต่อย่าลืม ฮิงะชิคะวะอยู่ในเขตพื้นที่ซึ่งมีหิมะตกเป็นเวลานาน ดังนั้นการทำเกษตรกรรมตลอดทั้งปีเพื่อให้มีผลผลิตหมุนเวียนนั้นเป็นไปได้ยากมาก

“เฉลี่ยแล้วที่นี่หิมะตกประมาณ 6 เดือนต่อปีครับ เราเลยแนะนำให้เกษตรกรปลูกข้าวให้เพียงพอสำหรับหนึ่งปีแล้วเก็บเกี่ยวไปเลยหนึ่งครั้ง แล้วก็เก็บรักษาเอาไว้ในยุ้งฉาง พอเข้าสู่ฤดูหนาว ยุ้งฉางก็จะกลายเป็นตู้เย็นธรรมชาติที่คอยเก็บความเย็นให้กับ ค่อยแบ่งทยอยเอามาขายเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการกับช่วงเวลานั้นๆ

แล้วความต้องการ “ข้าว” จากเมืองฮิงะชิคะวะนั้นมีมากหรือน้อยเพียงใด

“เมืองเราปลูกข้าวได้ปีละ 12,000 ตัน จากพื้นที่เพาะปลูก 15,625 ไร่ครับ และปัจจุบันนี้มีเกษตรกรกว่า 120 ครัวเรือนปลูกข้าวเป็นอาชีพหลัก” คุณอิจิโระบอกฉัน

158030374717

นอกจากจำนวนผลผลิตที่ปลูกได้ต่อปียังมากพอจะส่งออกได้ทั้งในและนอกเมืองตลอดทั้งปี นวัตกรรมหนึ่งที่คุณอิจิโระภูมิใจนำเสนอคือข้าวของเมืองที่อยู่ในแพคเกจกระป๋อง ซึ่งเคยเป็นที่ฮือฮามากในประเทศญี่ปุ่น

“ประมาณ 10 กว่าปีมาแล้วที่เจ้าหน้าที่ในเทศบาลช่วยกันคิดว่า เราจะทำผลิตภัณฑ์อะไรที่มันน่าสนใจออกขายดี เมื่อเมืองเรามีข้าวอยู่ เลยลองนำมาใส่กระป๋องดู และตอนนั้นได้ผลตอบรับดีมาก เพราะมันแปลกใหม่ มีจุดเด่นก็คือ เราสามารถเปลี่ยนรูปได้หลากหลายได้ตามวาระต่างๆ ได้หลากหลาย แต่หลังๆ มีปัญหาสิ่งแวดล้อมเข้ามา ทำให้คนเริ่มลดขยะมากขึ้น เราเลยปรับแพคเกจเป็นถุงพลาสติกสูญญากาศแทนครับ” คุณอิจิโระเล่า

- เมืองแห่งภาพถ่าย - 

เมืองแห่งภาพถ่าย คือแคมเปญประชาสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดของเมืองฮิงะชิคะวะ ซึ่งใช้เป็นแกนในการประชาสัมพันธ์มากว่า 30 ปี โดยประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช 2528

“เราเริ่มต้นให้เมืองแห่งภาพถ่ายเป็นแคมเปญเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวบันทึกความทรงจำที่สวยงามผ่านสถานที่และผู้คนของเมืองฮิงะชิคะวะครับ และชูจุดเด่นเพื่อให้เมืองมีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม โดยใช้ภาพถ่ายเป็นเครื่องมือผลักดันครับ” คุณอิจิโระเล่าถึงที่มาของแคมเปญเมืองแห่งภาพถ่ายให้ฉันฟัง

ไม่ใช่แค่ผลักดันให้เมืองแห่งภาพถ่ายเป็นแค่แคมเปญประชาสัมพันธ์ แต่กลายเป็นกฎหมายที่ประชากรในเมืองฮิงะชิคะวะต้องช่วยกันสร้างให้เมืองฯ บรรลุจุดประสงค์ตามเป้าประสงค์นี้ได้ด้วยดี

158030374817

“นโยบายนี้มีข้อดีตรงที่ การถ่ายภาพมันเหลือหลักฐานซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ส่งสู่รุ่นถัดไปได้ด้วย ทำให้ทุกคนมาร่วมกันทำให้เมืองนี้ เป็นเมืองที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปจากมุมไหน ถ่ายยังไงก็สวยครับ เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นลักษณะนี้ ทุกคนจะได้พยายามปลูกสิ่งก่อสร้างใดๆ ทั้งบ้านเรือน อาคาร การปลูกต้นไม้หรือพืชพรรณใดๆ ที่คิดถึงกฎบัญญัตินี้ครับ” คุณอิจิโระอธิบายเพิ่มเติม

การผลักดันเมืองฮิงะชิคะวะให้เป็นเมืองแห่งภาพถ่ายเข้มข้นถึงขั้นการออกแบบหลักสูตรในโรงเรียนประถมประจำเมืองฮิงะชิะคะวะให้มีหลักสูตรการถ่ายภาพเบื้องต้นสำหรับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนซึมซับศาสตร์แห่งการถ่ายภาพจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็กน้อยเหล่านั้น และถ้านักเรียนคนไหนมีงานภาพถ่ายที่เตะตาและน่าสนใจ งานของเขาจะถูกจัดแสดงในหอศิลปวัฒนธรรมของเมืองเป็นนิทรรศการย่อมๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ เมืองฮิงะชิคะวะยังจัดงาน Higashikawa Photo Festival เป็นประจำทุกปีเพื่อตอกย้ำแคมเปญประชาสัมพันธ์นี้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ภายในงานมีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายจากช่างภาพฝีมือดีทั้งหน้าเก่าและใหม่ การจัดกิจกรรมแข่งขันถ่ายภาพของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาจากทั่วโลก ซึ่งในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งตัวแทนจากโรงเรียนท่าสองยางวิทยาคมซึ่งเป็นกลุ่มเด็กชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ รวมทั้งการแจกรางวัล Higashikawa Awards ที่มอบให้กับช่างภาพผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมในแต่ละปี

ถือได้ว่าการผลักดันแคมเปญ “เมืองแห่งภาพถ่าย” ของเมืองนี้ ทำได้อย่างเข้มข้นและยอดเยี่ยมจริงๆ

158030374797

- นายกเทศมนตรี 5 สมัย - 

อ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะสงสัยว่าชายที่รับตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองเล็กเมืองนี้ รับตำแหน่งมานานหรือยัง หรือว่าสิ้นสุดอายุงานไปแล้ว

เปล่าเลย อิจิโระ มัตสึโอกะ รับตำแหน่งนายกเทศมนตรีมาแล้ว 5 สมัย หรือพูดง่ายๆ คือ ชายผู้นี้รับบทบาทพ่อเมืองฮิงะชิคะวะมาแล้ว 20 ปี

“ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา คุณเคยคิดมาก่อนมั้ยว่า คุณจะได้รับตำแหน่งนายกเทศมนตรี” ฉันถาม

“ไม่เคยคิดเลยครับ” คุณอิจิโระตอบคำถามของฉันทันที

“แล้วเมื่อคุณได้รับตำแหน่ง นโยบายแรกของคุณคืออะไร” ฉันถามต่อ

“ณ ตอนนั้นก็อยากที่จะทำให้เมืองมีประชากรเพิ่มขึ้น เพราะว่าทั่วญี่ปุ่นประชากรลดลง แล้วก็มีอีกโจทย์หนึ่งคือ จะทำยังไงให้คนต่างชาติที่ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นรู้จักเมืองนี้มากยิ่งขึ้น” 

สิ่งที่คุณอิจิโระค่อยๆ วางแผนและนโยบายปรับโครงสร้างเมืองให้ค่อยๆ มีจำนวนประชากรและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กันคือ การให้สวัสดิการแก่เด็กแรกเกิดถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามให้ได้รับการศึกษาที่เหมาะสม การรักษาพยาบาลฟรี และพื้นที่เล่น-เรียนรู้ อย่างครบถ้วนเพื่อเอื้อต่อการเติบโตของเด็กที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า รวมทั้งโครงการน่ารักๆ ที่สร้างคุณค่าของสมาชิกใหม่ในครอบครัวให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเองอย่างโครงการ Kimi no Itsu หรือเก้าอี้ของเธอ ที่คุณอิจิโระจะไปมอบเก้าอี้ตัวแรกที่สั่งทำพิเศษให้กับเด็กแรกเกิดทุกคนที่บ้านของเขาด้วยตัวเอง

“เราเริ่มโครงการนี้ไม่เพียงแต่อยากให้ประชากรมีลูก แต่อยากให้มันเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาด้วย เพราะเอยากให้เป็นเก้าอี้ตัวแรกของเด็กเกิดขึ้นมาใช่ เพื่อให้เกิดความรู้สึกขอบคุณ ที่เด็กนั้นได้เกิดมาบนโลกใบนี้ เมื่อเด็กคนนั้นก็ได้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้นของตัวเอง นั่งเรียนที่บ้าน แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็สอนการบ้าน สอนอ่านหนังสือ เด็กคนนั้นก็เริ่มคุ้นชินกับการมีเก้าอี้ตัวนั้น แล้วพอเด็กคนนั้นเติบโตไปเรื่อยๆ หรือในภายภาคหน้าที่เขามีลูกมีหลานเกิดขึ้นมาต่ออีก มันก็จะมีเรื่องเล่าที่คุณพ่อ คุณแม่ สามารถเล่าให้ลูกฟังไปได้เรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่น”

158030374728

ส่วนการประชาสัมพันธ์เมืองฮิงะชิคะวะให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงเกิดโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นฮิงะชิคะวะที่ตอนรับนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมในพื้นที่จริง ทำให้เกิดการไหลเวียนของเม็ดเงินภายในเมืองสู่ผู้ประกอบการ เกษตรกร และชาวบ้านให้มีรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปี

ถึงตรงนี้บทสนทนาของฉันและคุณอิจิโระควรจะจบลงที่ว่า ท่านสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เกิดขึ้นได้จริงและสามารถบรรลุจุดประสงค์หลายๆ อย่างที่เขาเคยวาดไว้แล้ว แต่สิ่งที่ชายวัย 72 ปีตรงหน้าตอบฉัน กลับเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

“ยังไม่สำเร็จเลยครับ”

“ผมมองว่าทุกอย่างต้องใช้เวลาครับ เป้าหมายทุกอย่างมันใกล้สำเร็จมากขึ้นๆ อย่างที่ผมคิดไว้ เช่น มีประชากรเพิ่มมากขึ้น มีนักเรียนต่างชาติมาในเมืองมากขึ้น แต่แล้วทุกอย่างมันใช้เวลา ซึ่งผมก็ตั้งระยะเวลาเอาไว้แคบลงๆ เรื่อยๆ”

“แล้วการที่คุณยืนระยะตำแหน่งมาได้ถึง 20 ปี บอกอะไรกับคุณบ้าง” ฉันถามคำถามสุดท้ายกับเขา

“หลักๆ จะมาจากที่เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานกันอย่างแข็งขันครับ ทุกคนเกิดความตั้งใจที่อยากทำงานให้เต็มที่ เมื่อเกิดทีมเวิร์กที่ดี ทำให้ประชาชนไว้ใจกว่าเดิม ยิ่งมีทีมงานที่ดี ยิ่งเสริมในสิ่งที่ผมไม่รู้ ทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” คุณอิจิโระตอบ