มอง 'ลอดช่อง' หรือ 'ยึดบรรทัดฐาน' ?

มอง 'ลอดช่อง' หรือ 'ยึดบรรทัดฐาน' ?

ถึงนาทีนี้ หลายฝ่ายยังจับจ้องไปที่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อประเด็น "เสียบบัตรแทนกัน" ของ ส.ส. ระหว่างพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ในวาระ 2 และ3 อันอาจส่งผลให้การบังคับใช้มีปัญหาไปด้วย 

ในวันนี้ (29 ม.ค.) ศาลจะพิจารณาว่าจะ รับ-ไม่รับคำร้อง” ตามที่ประธานสภาเสนอ หากรับคำร้องขั้นตอนต่อไปก็จะต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงก่อนมีคำวินิจฉัยว่า กระบวนการพิจารณากฎหมายเป็นไปโดยชอบหรือไม่?

มีการประเมินว่า แนวทางที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมาเป็นไปได้หลายทางๆไม่ว่าจะเป็น กระบวนการตราร่างกฎหมายขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่?

มอง \'ลอดช่อง\' หรือ \'ยึดบรรทัดฐาน\' ?

หากศาลวินิจฉัยว่ากระบวนการมีปัญหาจะ มีปัญหาทั้งฉบับ หรือ เฉพาะมาตรา” ที่มีการกดบัตรแทนกัน หากเป็นอย่างหลังคือมี ปัญหาเฉพาะมาตรา ก็อาจจะง่ายตรงที่สามารถนำร่างกลับมา โหวตใหม่ หรือ ตัด4เสียงที่มีปัญหาออก

มอง \'ลอดช่อง\' หรือ \'ยึดบรรทัดฐาน\' ?

แต่หากมีปัญหาทั้งฉบับหรือ ให้กฎหมาย เป็นอันต้องตกไป นั่นหมายความว่า กระบวนการทั้งหมดถือเป็นโมฆะ และต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งการพิจารณาเรียงตามวาระ1-2-3 หรือ การตั้งกมธ.เต็มสภาฯเพื่อพิจารณา3วาระรวด

เรื่องนี้มีความเห็นจากทาง ศรีธนญชัยลอดช่อง อย่าง วิษณุ เครืองาม ที่พยายาม มองลอดช่อง” โดยหยิบยกมาตรา143แห่งรัฐธรรมนูญมากล่าวอ้างว่า พ.ร.บ.งบฯถือเป็น กฎหมายพิเศษ ไม่สามารถนำไปเทียบเคียงกับกรณีการเสียบบัตรแทนกันของ นริศร ทองธิราช อดีตส.ส.เพื่อไทย ซึ่งศาลเคยวินิจฉัยให้พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเป็นโมฆะได้

มอง \'ลอดช่อง\' หรือ \'ยึดบรรทัดฐาน\' ?

หากร่างพ.ร.บ.งบฯตกไป จะเข้าข่ายว่า สภาฯพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายใน 105วันตามมาตรา143 และให้ถือว่าสภาเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.หรือไม่?

ทว่าอีกมุมหนึ่งกลับไม่เห็นเป็นเช่นนั้น เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การพิจารณาว่า เสร็จ หรือ ไม่เสร็จ แต่เป็นเรื่องของความ ชอบ” หรือ ไม่ชอบ ด้วยกฎหมายจึงไม่สามารถยกมาตราดังกล่าวมากล่าวอ้างได้ และการกดบัตรแทนกันในอดีตจนส่งผลให้ร่างกฎหมายเป็นโมฆะ  ย่อมถือเป็น บรรทัดฐาน ซึ่งต้องนำมาใช้กับกรณีล่าสุดด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การยื่นตีความดังกล่าวย่อมส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลต้องสะดุดลงท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบด้วยการ ลาออก” หรือ ยุบสภาฯ” 

ขณะที่ฟากฝั่งรัฐบาลยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาของสภาฯนายกฯไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น!!