ท่องเที่ยวกดดัน

ท่องเที่ยวกดดัน

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงแรง จากความกังวลของโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

กดดันกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม รวมทั้งกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบโลก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,524.15 จุด (-45.40 จุด) Volume 6.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,733.27 ลบ. TFEX Net -6,443 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ ค่าเงินบาทวันที่ 27 ม.ค.63 เปิดตลาดที่ 30.64 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนเป็นผลดีคีอการส่งออก

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 453.93 จุด -1.57% กังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ จีนยังขยายเวลาวันหยุดในเทศกาลตรุษจีนและมีคำสั่งห้ามทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.05 ดอลลาร์ -1.9% ปิดที่ 53.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก

-จีนเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาพุ่งเป็น 81 ราย ติดเชื้อกว่า 2,800 ราย

-สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ลดลงในเดือนธ.ค. สวนทางคาดการณ์

-การเบิกจ่ายงบประมาณฯปี 63 ล่าช้ากดดันการขยายตังของศก.ในช่วงไตรมาสแรก

-การเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนอีกแล้ว ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 8,605.20 ลบ. ค่าเงินบาท 30.70 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จาก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่กดดันกลุ่มสายการบิน และกลุ่มท่องเที่ยว และราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงกดดันกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,510-1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (BH BCH BDMS)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU KCE HANA DELTA)
  • หลีกเลี่ยงกลุ่มสายการบิน (THAI AAV NOK) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW MINT)

หุ้นรายงานพิเศษ

BRR site visit “Bottom out” คาดแนวโน้มงบจะดีไตรมาส 2/63

- คาดไตรมาส 4/62 ผลประกอบการอ่อนตัวจากการตั้งสำรองของสต๊อกน้ำตาลเก่า อีกทั้งถูกกดดันจากภาวะภัยแล้งทำให้ผลผลิตลดลง

- คาดปี 63 ปริมาณการผลิต ลดลงจาก 2.9 ตันเหลือ 2.1 ตัน จากภาวะภัยแล้ง ขณะที่ราคาปรับตัวขึ้นในตลาดโลกจากปริมาณอุปทานที่ลดลง แต่โดยรวมคาดผลกระทบจากการผลิตที่ลดลงจะมากกว่า

- ความเห็น คาดว่าผลประกอบการจะอ่อนตัว ในไตรมาส 4/62 สำหรับปี 63 ผลประกอบการยังคงถูกกดดันจากปริมาณการผลิตที่ลดลง จากค่าเสื่อมราคาของโรงงาน refine อย่างไรก็ตามจะเริ่มรับรู้ราคาน้ำตาลใหม่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไปช่วยหนุนผลประกอบการ

หุ้นมีข่าว   

(+) EA (Bloomberg Consensus 61.40 บาท)   เตรียมรับรู้รายได้โรงงาน PCM ปีนี้กว่า 800 ล้านบาท เริ่มบุ๊กตั้งแต่ไตรมาส 2 เล็งขยายกำลังการผลิตจาก 130 ตัน เป็น 1,000 ตัน/วันในอีก 5 ปี ขณะที่มั่นใจยอดขายรถยนต์ EV ปีนี้ตามเป้า 5,000 คัน ส่วนโรงงานแบตเตอรี่เฟสแรกยันเสร็จไตรมาส 3 ปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) THAI (Bloomberg Consensus 5.28บาท) สุเมธตั้งเป้าปีนี้ THAI มีเคบินแฟคเตอร์ไม่ต่ำ 80% รายได้ 1.7 แสนล้านบาท เชื่อหนุนพลิกมีกำไรได้ ล่าสุดเช่าเครื่องบินเพิ่ม 3 ลำแล้วแบบโบอิ้ง 777-300ER เตรียมเสริมเส้นทางยุโรป ส่วนไวรัสโคโรน่ากระทบน้อย เชื่อจีนคุมอยู่ใน 3 เดือน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) CGD (Bloomberg Consensus - บาท)  เดินหน้าแผนปี 63 ลุยปรับแยกพอร์ตชัดเจน สินทรัพย์เพื่อการขาย-สินทรัพย์รายได้ประจำ” แย้มโรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา ผลตอบรับดี หลังเริ่ม Soft Launch ม.ค. ก่อนเปิดให้บริการลูกค้าทั่วไปมี.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

ความเห็น ผลประกอบการงวด 9M62 ขาดทุนสุทธิ 391 ล้านบาทเทียบกับขาดทุนสุทธิ 276.6 ล้านบาท และไม่จ่ายเงินปันผลจึงไม่สามารถคำนวณ PE และ yield ได้ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการปี 63 มีแนวโน้ม turnaround จากการเริ่มโอนโครงการคอนโดมิเนียมในโครงการเจ้าพระยาเอสเตท โฟร์ซีซั่นส์ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ” เปิดบริการโรงแรม 2 แห่งคาเพลลาและโฟร์ซีซั่นส์ ราวปลาย Q3 หรือต้น Q4

(+) CPT (Bloomberg Consensus - บาท) ลั่นปี 63 เทิร์นอะราวด์ ตั้งเป้ารายได้โต 30% จากปี 62 เน้นขยายฐานลูกค้า โชว์ตุนแบ็กล็อก 450 ล้านบาท ลุ้นงานที่รอสรุปการสั่งซื้ออีกกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมลุยเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ เล็งหาโอกาสเข้าซื้อกิจการ คาดสรุปอย่างน้อย 1-2 ราย ภายในปี 63 (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) D (Bloomberg Consensus - บาท)  เดินหน้าขยายธุรกิจเครื่องมือทันตกรรมต้นปี 63 ล่าสุดบริษัทในเครือได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จาก Carl Zeiss Meditec AG สินค้ากลุ่ม Loupes จากประเทศเยอรมนี ฟาก "ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล" บิ๊กบอส มั่นใจกระแสตอบรับดี คาดช่วยหนุนผลงานปีนี้โตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TNP (ราคาเหมาะสม 2.56 บาท) TNP อัดงบ 70 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มอีก 4-5 แห่ง รองรับการฟื้นตัวในอนาคต คาดยอดขายปีนี้โต 10-15% จากปีก่อน ชี้สถานการณ์ไวรัสระบาดไม่กระทบธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) KSL (Bloomberg Consensus 2.43 บาท)  รับอานิสงส์รัฐจ่อเลิกขายโซฮอล์ 91 ในไตรมาส 3/2563 หนุนดีมานด์เอทานอลพุ่ง บิ๊ก "ชลัช ชินธรรมมิตร์" ทุ่มงบ 1 พันล้านบาท ขยายกำลังผลิตเพิ่ม ปักธงยอดหีบอ้อยปีนี้แตะ 6-7 ล้านตัน ปันผล 0.05 บาท ขึ้น XD 4 มีนาคมนี้  (ที่มา ทันหุ้น)

 (+) GPFT (Bloomberg Consensus 14.08 บาท) ระบุจีนปิดเมืองไม่กระทบส่งออกชิ้นส่วนไก่ ตั้งเป้าทั้งปี 2563 กำไรปกติโต 3-5% เมื่อเทียบกับปี 2562 รับราคาสินค้าแปรรูปทำกำไรดีกว่าสินค้าเนื้อไก่สด เร่งติดตั้งเครื่องจักรคาด 2 เฟสเสร็จในไตรมาส 3/2563 และเสร็จครบทั้ง 5 เฟสปลายปี 2563 เช่นเดียวกับโรงเชือด-โรงเลี้ยง หนุนกำไรปี 2564 โตได้กว่า 10% (ที่มา ทันหุ้น)