'สนธิรัตน์' เล็งชะลอผลิตก๊าซฯ ในประเทศ หันนำเข้าแอลเอ็นจีราคาถูกแทน
“สนธิรัตน์” เล็งเบรกผลิตก๊าซฯ ในประเทศ สั่ง ปตท.ศึกษาโอกาสนำเข้า "แอลเอ็นจี" เพิ่ม ฉวยจังหวะราคาตลาดโลกถูกลดต้นทุนผลิตไฟฟ้า ด้าน ส.อ.ท.เสนอรัฐลดค่าไฟอุ้มเศรษฐกิจ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ศึกษาชะลอการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลง และหันไปเปรียบเทียบกับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในประเทศมากขึ้น เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์ในช่วงที่สถานการณ์ราคา LNG ตลาดโลกถูกลงมาก และยังเป็นการรักษาทรัพยากรแหล่งก๊าซฯสำคัญในประเทศไว้ โดยเรื่องนี้ ผู้บริหาร ปตท.ได้รับทราบนโยบายแล้ว และคาดว่าจะนำผลการศึกษากลับมาเสนอในเร็วๆนี้
“ขณะนี้ อยู่ในเงื่อนไข ให้ศึกษาความเป็นไปได้เปรียบเทียบต้นทุนระหว่างการนำเข้าLNG มาใช้กับการผลิตก๊าซฯในประเทศ อันไหนจะมีต้นทุนต่ำกว่ากัน ยังไม่ได้ให้ทำเลย แต่ให้ไปศึกษาก่อน ถ้าหาก LNG ถูกกว่ามาก จนคุ้ม ก็อาจเป็นเรื่องที่จะมาพิจารณาเรื่องนี้ ยังไม่ได้สรุปว่าจะทำ”
ส่วนกรณีจะเกิดปัญหาไม่ใช้ก๊าซฯก็ต้องชำระเงิน (Take or Pay) ด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาให้รอบครอบ ซึ่งการบริหารพลังงานในยุคนี้ จะต้องมีความยืดหยุ่นสูง ดูตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ใช่เคยทำอะไรมาก็ทำ แต่จะพิจารณาว่าอะไรทำแล้วประเทศได้ประโยชน์สูงสุด ก็จะผลักดัน โดยจะทบทวนนโยบายให้เหมาะสม และไปสู่เป้าหมายผลักดันเปิดศูนย์กลางการซื้อ-ขาย LNG ของภูมิภาค (Regional LNG Hub) ในไตรมาส 3 ปีนี้ ที่จะมีเรื่องของการนำเข้า LNG เพื่อส่งออกด้วย
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าให้กับผู้รายได้น้อยและเอสเอ็มอีว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียดต่างๆ พร้อมทบทวนเงื่อนไขการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้มีความเหมาะสมมากขึ้น และอาจจะต้องรอการจัดสรรงบประมาณเข้ามาดูแลเพิ่มเติมด้วย
สำหรับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้น กระทรวงพลังงาน เตรียมสรุปกรอบการลงทุนภายในเดือนม.ค.นี้ และเปิดยื่นเสนอโครงการฯ ในเดือน ก.พ.นี้ พร้อมกัน 700 เมกะวัตต์ ทั้งในส่วนของโครงการนำร่อง (Quick win) และโครงการทั่วไป โดยยืนยันว่า โครงการนี้ จะไม่มีปัญหาเรื่องของการวิ่งเต้น เพื่อให้ได้โครงการอย่างแน่นอน และหากพบว่า มีข้อร้องเรียน จะตัดสิทธิ์โครงการนั้นทันที
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ได้เสนอให้ภาครัฐพิจารณาปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วนในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลกซบเซา ทำให้ภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวชะลอลง ซึ่งจังหวะนี้ เหมาะสมที่ภาครัฐจะเข้ามาช่วยเหลือประชาชนรวมถึง การแยกโครงสร้างค่าไฟฟ้าเพื่อดูแลเอสเอ็มอี ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ภาครัฐควรจะต้องดำเนินการ เนื่องจากขณะนี้โครงสร้างเศรษฐกิจไม่แข็งแรง และผู้ประกอบการรายเล็กไม่กำลังพอที่จะช่วยเหลือตัวเอง