อ่อนตัว

อ่อนตัว

รอซื้อเก็งกำไรแนวรับ 1560-1555 จุด โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1560 / 1555 จุด แนวต้าน 1580 จุด เนื่องจาก 1) การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เร่งตัวขึ้นทั้งในด้านจำนวนผู้ติดเชื้อ และประเทศที่พบ ผู้ติดเชื้อรายแรก โดยประเทศไทยจะมีผลกระทบสูงกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวมีสูงถึง 14% ของ GDP รวม 2) สัญญาณเทคนิคยังไม่มีสัญญาณซื้อ หลังจากสร้างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงและยังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญ 1580 จุดขึ้นไปได้ 3) ความล่าช้าของพ.ร.บ. งบประมาณปี 2020 จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนภาครัฐ และเป็น Negative Sentiment ต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

ประเด็นสำคัญวันนี้: Germany-Ifo Index / USA-new home Sales / ตลาดหุ้นปิด ทำการ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน-สิงคโปร์ ไต้หวัน เวียดนาม เซี่ยงไฮ้

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันศุกร์

- ตลาดหุ้นไทยปิดลดลง: ดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบเดิม 1567-1576 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1569.55 จุด -4.15 จุด -0.26% วอลุ่ม 4.75 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตฯ นำลง คือ พาณิชย์ -1.51% ปิโตรเคมี -1.17% พลังงาน -1.06%ไฟแนนซ์ -0.51%

- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: DJ -0.09% S&P500 +0.11% Nasdaq +0.2% ล่าสุดเช้านี้ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ เป็นคนที่ 5 และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เผยมีผู้ที่มีแนวโน้มติดเชื้ออีก 100 ราย ใน 26 รัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากรายงานภาคการผลิตเดือน ม.ค. ฟื้นตัว FTSE +1.04% CAC40 +0.88% DAX +1.41%

- น้ำมันดิบร่วงเป็นวันที่ 4 และทองคำขึ้นต่อเนื่อง: WTI -USD1.4 ปิดที่ USD54.19/บาร์เรล Brent –USD1.35 ปิด USD60.69/บาร์เรล วิตกอุปสงค์น้ำมันลดลง เนื่องจากการเดินทางในโลกมีแนวโน้มลดลง เพราะผลกระทบของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ส่วนทองคำฟื้นตัว USD6.5 ปิด USD1571.90/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- ไวรัสโคโรนำ: การระบาดเพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต และประเทศที่พบเชื้อฯ โดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน รายงานจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีอย่างน้อย 2 พันราย และเสียชีวิตอย่างน้อย 80 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่น โดยล่าสุดสหรัฐฯ พบผู้ป่วยเป็นรายที่ 5 ฯลฯ ขณะที่รัฐบาลจีนออกมาตรการสกัดการแพร่ระบาดสุด อาทิ การงดกิจกรรมเทศกาลตรุษจีนของหลายเมือง การขยายเวลาวันหยุดยาวตรุษจีนออกไป การเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ 405 ราย เข้าไปที่เมืองอู่ฮั่น ฯลฯ

- สหรัฐฯ: Markit รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ม.ค. ลดลงต่่าสุดรอบ 3 เดือนที่ 51.7 (Vs เดือน ธ.ค. 52.4) แต่ภาคบริการเดือน ม.ค. สูงสุดรอบ 10 เดือน ที่ 52.3 (Vs เดือน ธ.ค. 52.8) ส่งผลให้ดัชนีรวมเดือน ม.ค. สูงสุดรอบ 10 เดือน ที่ 53.1 (Vs เดือน ธ.ค. 52.7)

+ EU: Markit รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ม.ค. สูงสุดรอบ 9 เดือน ที่ 47.8 (Vs เดือน ธ.ค. 46.3) ส่งผลให้ดัชนีรวมเดือน ม.ค. เท่ากับเดือน ธ.ค. ที่ 50.9 ขณะที่ดัชนีรวมเดือน ม.ค. ของเยอรมนีและอังกฤษ สูงสุดรอบ 5 และ 16 เดือน ตามลำดับเป็น 51.1 (Vs เดือน ธ.ค. 50.2) และ 52.4 (Vs เดือน ธ.ค. 49.3)

- สหรัฐฯ: ปธน.ทรัมป์ สั่งเพิ่มภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กอีก 25% และอลูมิเนียม 10% มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. โดยยกเว้นให้กับบางประเทศ เช่น อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย แคนาดา เม็กซิโก ฯลฯ เพื่อช่วยสนับสนุนการผลิตในสหรัฐฯ

- Fund Flow: เงินทุนไหลเข้า 6 ชาติในเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น มีต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ด้วยปริมาณลดลงเหลือ +USD730mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +USD1,447mn) โดยซื้อไต้หวัน อินโดยนีเซีย และขายเกาหลีใต้ ไทย ฟิลิปปินส์ อินเดีย โดยตลาดหุ้นไทยถูกขายเป็นสัปดาห์ที่ 9 ในรอบ 10 สัปดาห์ ที่ –USD42mn (Vs สัปดาห์ก่อน –USD226mn)

กลยุทธ์: รอซื้อเก็งกำไรแนวรับ 1560-1555 จุด โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: INTUCH JASIF JMT

หุ้นโมเมนตัมบวก: WHA COM7 TEAMG EASTW PRM

หุ้นโมเมนตัมลบ: GPSC ACE IVL BEAUTY BIG

Derivatives: แนะทยอยปิด Short S50H20 ทากาไร (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)