Contractor Sector (27 ม.ค.63)

Contractor Sector (27 ม.ค.63)

นั่งรออย่างสบายใจได้เลย

Event

อัพเดตกลุ่มรับเหมา และประมาณการ 4Q62

lmpact

เรื่อง พรบ. งบประมาณปี 2563 เป็ นแค่ปัจจัยลบต่อภาวะตลาดในระยะสั้นเท่านั้น

พรบ. งบประมาณปีนี้เกิดเหตุสะดุดเนื่องจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่าการนำพรบ. งบประมาณขึ้นทูลเกล้าต้องรอหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการลงมติของ ส.ส. มีผลถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ นาย อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร้องขอให้สำนัก
งบประมาณเตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้ว ทั้งนี้ ได้มีการนำประเด็นเรื่องการเสียบบัตรแทนกันในการลงมติ พรบ. งบประมาณส่งเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้วซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1-3 เดือนกว่าจะได้ข้อสรุป แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับประเทศ เพราะควม
ล่าช้าของพรบ. งบประมาณอาจจะส่งผลลบต่อการลงทุนภาครัฐ

การเปิดประมูลโครงการภาครัฐอาจจะล่าช้าเล็กน้อย แต่น่าจะยังเกิดขึ้นภายในปี 2563

เรายังไม่เห็น downside ของประมาณการกำไรปี 2563 เนื่องจากโครงการภาครัฐใหม่ ๆ ที่เปิ ดประมูลจะเริ่มงานก่อสร้างและสร้างรายได้ให้บริษัทรับเหมาในปี 2564 (เราใช้สมมติฐานว่า backlog จากโครงการใหม่ ๆ จะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564) แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก พรบ. งบประมาณปี 2563 ล่าช้า
ออกไป 1-3 เดือน ก็อาจจะทำให้การเปิดประมูลโครงการภาครัฐบางโครงการล่าช้าออกไป อย่างเช่นโครงการ i)รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ii) รถไฟทางคู่เฟสที่ II บางเส้นทาง และ iii) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้แต่เราคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจะไม่ล่าช้าเพราะใช้แนวทาง PPP-Net cost (คาดว่าจะ
ออก TOR ได้ใน 2Q63)

ประมาณการ 4Q62: มีแค่ STEC และ PYLON เท่านั้นที่ผลประกอบการจะดีขึ้น QoQ

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของกลุ่มรับเหมาใน 4Q62 จะอยู่ที่ 423 ล้านบาท (-44.3% YoY, -38.0%QoQ) โดยกำไรที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะ i) backlog ของ CH.Karnchang (CK.BK/CK TB)* ลดลง และรายได้ equity income จาก Bangkok Expressway and Metro (BEM.BK/BEM TB)* ลดลง ii) อัตรากำไรขั้นต้นของ Sino Thai Engineering & Construction (STEC.BK/STEC TB)* ลดลงในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของผู้รับเหมารายหลักยังคงทรงตัว QoQ

Valuation & Action

ประเด็นเรื่อง พรบ. งบประมาณปี 2563 ที่ยังค้างคาอยู่จะกดดันภาวะตลาดของกลุ่มรับเหมาให้เป็นลบในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อสะสมในช่วงที่มีประเด็นค้างคาอยู่นี้ โดยเราชอบ STEC มากกว่าเพื่อนในฐานะที่เป็นหุ้นรับเหมาหลักที่มี backlog แข็งแกร่งถึง 8.7 หมื่นล้านบาท
และ ก็ชอบ SEAFCO (SEAFCO.BK/SEAFCO TB)* ในฐานะผู้รับเหมางานเสาเข็มและฐานราก

Risks

กำหนดการก่อสร้างล่าช้า ขาดแคลนแรงงาน และค่าวัสดุแพงขึ้น