หุ้น 'ท่องเที่ยว' ส่อรูดหนัก พิษไวรัสโคโรนา-ทัวร์จีนระงับเที่ยวนอก

หุ้น 'ท่องเที่ยว' ส่อรูดหนัก พิษไวรัสโคโรนา-ทัวร์จีนระงับเที่ยวนอก

โบรกเกอร์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ส่อรูดหนัก หลัง “จีน” สั่งห้ามบริษัททัวร์ขายแพคเกจเที่ยวนอกป้องไวรัสโคโรนาระบาด จับตากลุ่มท่องเที่ยวโดนถล่มหนัก ประเมินแนวรับสำคัญที่ 1,550-1,555 จุด “ไพบูลย์” ชูกลยุทธ์ลงทุน เน้นหุ้นกลุ่ม Defensive

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ดูจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ หลังจากที่รัฐบาลจีนสั่งบริษัทนำเที่ยวหยุดดำเนินกิจกรรมกสนท่องเที่ยวและงดการขายผลิตภัณฑ์ตั๋วเครื่องบินและโรงแรม ซึ่ง นักวิเคราะห์ ประเมินว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มบริการและการท่องเที่ยว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคงส่งผลกระทบต่อหุ้นไทยพอสมควร เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น และนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นกลุ่มที่เข้ามาเที่ยวไทยเป็นอันดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 วันหลังจากนี้ หากสถานการณ์ไม่เลวร้ายไปกว่าเดิม ก็น่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงไม่มากนัก แต่หากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากก็คงมีแรงเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องออกมา โดยกลุ่มหุ้นที่น่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว คือ กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค เช่น ห้างสรรพสินค้า เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยยังถือว่าค่อนข้างโชคดี เนื่องจากที่ผ่านมาดัชนีไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก จึงคาดว่าผลกระทบไม่น่าจะรุนแรงมากเท่าตลาดหุ้นอื่นๆ

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เนื่องจากผลกระทบประเมินว่าจะเกิดเพียงช่วงสั้น โดยเชื่อว่าท้ายสุดจะหาวิธีรับมือกับโรคระบาดดังกล่าวได้ จึงแนะนำนักลงทุนถือหุ้นต่อได้ เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับต่ำ  จึงแนะนำให้นักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุน โดยเน้นถือหุ้นกลุ่ม Defensive หรือหุ้นเชิงรับ เช่น กองรีท กองอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และหุ้นปันผลดีสม่ำเสมอ รวมถึงแนะนำให้กระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ เชื่อว่าแนวโน้มราคาทองคำยังน่าสนใจตลอดทั้งปี จึงควรมีติดพอร์ตไว้บ้าง

158003197565

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายธุรกิจรายย่อย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ (27 ม.ค.) น่าจะปรับตัวลดลงตามแรงขายหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากรัฐบาลจีนสั่งห้ามบริษัททัวร์หยุดขายแพคเกจท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโคโรนา โดยคาดว่ากว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับมา จะใช้เวลาราว 3-6 เดือน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยคงปรับตัวลงไม่แรง เนื่องจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ของหุ้นไทยอยู่ระดับที่ค่อนข้างต่ำเพียง 15.5 เท่า และคาดว่าจะได้แรงซื้อหุ้นเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากภาคการผลิตโลกที่เริ่มฟื้นตัว โดยมองแนวรับหุ้นไทยที่ระดับ 1,555 จุด แนวต้านที่ระดับ 1,585 จุด

สำหรับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่คาดว่าได้รับผลกระทบมาก เป็นหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ สูง หรือ มีสัดส่วนรายได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวนมาก โดยกลุ่มโรงแรม เช่น บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ,บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) กลุ่มขนส่ง เช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ,บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV)

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะมีแรงขายอย่างหนักในหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยว โดยดัชนีมีแนวรับสำคัญที่ 1,555 จุด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ เรื่องการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563

“ผลกระทบยังประเมินยาก ต้องติดตามสถานการณ์ซึ่งขณะนี้ยังไม่นิ่ง แต่หากการแพร่ระบาดเริ่มทรงตัว และสามารถหาวัคซีนป้องกันโรคได้ เชื่อว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างโดดเด่น เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงรับข่าวไปพอสมควรแล้ว”

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสย่อตัวลงไปที่ระดับ 1,550 จุด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งตามสถิติหลายปีที่ผ่านมาพบว่าปัจจัยเรื่องโรคระบาด ทั้งซาร์ส และเมอร์ส ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่ครั้งนี้เนื่องจากหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวโรงแรม สายการบิน มีน้ำหนักพอสมควร ประกอบกับตลาดหุ้นต่างประเทศก็ยังถูกกดดันจากปัจจัยดังกล่าว จึงคาดว่าจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยมากไปด้วย