'วิษณุ' ยอมรับสอบตกอันดับโปร่งใส ปล่อยเวียดนามแซงหน้า

'วิษณุ' ยอมรับสอบตกอันดับโปร่งใส ปล่อยเวียดนามแซงหน้า

"วิษณุ" ยอมรับสอบตกอันดับโปร่งใส ปล่อยเวียดนามแซงหน้า ปลอบใจยังมีเวลาตีตื้น

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในงานวันครบรอบการสถาปนา 12 ปี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่า รัฐธรรมนูญให้อำนาจ ป.ป.ท. ในการแก้ไขปัญหาทุจริตต่างๆ ได้หมดทุกเรื่อง

 

แต่การป้องกันและปราบปรามการทุจริตไม่ได้มีเพียงแค่ไปจับคนมาฟ้อง ติดคุก ติดตะราง ต้องมีการศึกษาวิจัยและหามาตรการที่จะขู่หรือเตือนให้เกิดจิตสำนึก โดยต้องร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งต่อให้มีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีก 10 สำนักงาน ก็คงจะไม่สามารถแบกรับงานไว้ทั้งหมดได้ จึงจำเป็นต้องมี ป.ป.ท. มาช่วยแบ่งเบาภาระงาน คือ ป.ป.ช. เป็นพระเอก และ ป.ป.ท. เป็นพระรอง ถือดาบกันคนละข้าง เพื่อจัดการการทุจริต

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่ผ่านมา ป.ป.ท. สามารถทำงานได้ดี จะเห็นจากสถิติการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. มีน้อย หรือแทบไม่มีคดีเลย นอกจากนี้ ป.ป.ท. ยังทำคดีโครงการทุจริตจำนำข้าว แม้หลายคนอาจจะมองว่าช้า แต่คดีก็มีความคืบหน้าจนสามารถส่งฟ้องและดำเนินคดีเรียกทรัพย์คืนในทางแพ่งให้ชดใช้ได้หลายราย

นอกจากนี้ ยังมีผลงานการปราบทุจริตในเรื่องค่าอาหารกลางวัน และเรื่องเงินทอนวัด สำหรับภารกิจสำคัญที่รัฐบาลมอบให้แก่ ป.ป.ท. มี 3 ประการ คือ 1. การป้องกัน 2. การปราบปราม และ 3. การสร้างความสัมพันธ์กับเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ในระดับนานาชาติจะมีตัวชี้วัดการทุจริตคือ Corruption Perceptions Index : CPI ของ Transparency International : TI หรือ องค์กรชี้วัดความโปร่งใสนานาชาติ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบประเทศที่เข้าร่วมโครงการยอมให้ตรวจสอบ เมื่อปี 2562 ไทยได้คะแนน 36 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 99 ถ้านับจาก 50 คะแนน ก็ถือว่าสอบตก แต่ถ้านับเป็นอันดับก็เป็นอันดับที่ 99 ล่าสุด ก็ประกาศผลออกมาว่าค่า CPI ของไทยประเมินได้ 36 คะแนน จาก 100 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 101 รักษาอันดับไม่ได้ เพราะถูกเวียดนามเบียดแซงไป แต่เรายังมีเวลาที่จะกระเตื้องขึ้นได้

ข่าวเกี่ยวข้อง ชี้รัฐบาลต้องมีคำตอบ เหตุอันดับความโปร่งใสไทยต่ำลง