เลือกเก็งกำไรรายตัว น่าทยอยสะสมหุ้นโรงแรมเมื่ออ่อนตัว

เลือกเก็งกำไรรายตัว น่าทยอยสะสมหุ้นโรงแรมเมื่ออ่อนตัว

สถานการณ์ไวรัสโรโรนาล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 25 ราย ติดเชื้อ 830 ราย

โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อรวมถึงในเวียดนามและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกมองว่าเร็วเกินไปที่จะประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรนา เป็นการภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพของโลก (Global Health Emergency) โดยยังมองเป็นเพียงการระบาดเฉพาะที่จีน (Emergency in China) ซึ่งล่าสุดทางการจีนประกาศปิดเมืองหวงกังต่อจากอู่ฮั่น ที่มีประชากรรวม 18 ล้านคน เพื่อทำการกักกันโรค สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มต่างๆในเบื้องต้นดังนี้

ท่องเที่ยว เป็นลบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่ามีความเสี่ยงที่จะปรับลดลง โดยในครั้งเกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (SARS) จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 50% ในช่วง 3 เดือน และทยอยฟื้นตัวขึ้นจนกลับสู่ปกติในอีก 3 เดือน (รวม 6 เดือน) ทั้งนี้เที่ยวบินระหว่างไทย-อู่ฮั่น มีจำนวน 58 เที่ยว/สัปดาห์ ถูกระงับ คาดกระทบต่อหุ้น สนามบิน สายการบิน และโรงแรม อย่างไรตาม เรามองปัจจัยพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้การปรับลดลงเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นโรงแรม โดยชอบ ERW (สะสม 4.4-4.6 บาท) และ MINT (สะสม 31-31.50 บาท)

พลังงานและโรงกลั่น ในตอนเกิดโรค SARS ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Bloomberg Commodity Index) ปรับลดลงราว 10% และแกว่งตัว โดยดัชนีดังกล่าวกลับมาทะยานขึ้นหลัง WHO ประกาศสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย ดังนั้นเรามองการปรับลดลงจากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันในรอบนี้จะเป็นเพียงผลระยะสั้น และเรารอจังหวะซื้อถัวหุ้นพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น PTT, PTTEP, TOP และ SPRC 

กลุ่มการแพทย์ ได้รับจิตวิทยาเชิงบวกเกี่ยวกับความกังวลเรื่องโรค อาจทำให้คนเข้ารับการรักษาเพิ่ม ทั้งนี้ในกลุ่มหุ้นที่เราชอบยังคงเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการปรับเพิ่มรายหัวประกันสังคม อาทิ BCH, CHG, RJH ที่จะมีการเติบโตของกำไรในระดับราว 30% ทำให้โดดเด่นกว่ากลุ่มร.พ.ขนาดใหญ่

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวในกรอบ 1566-1600 จุด ยังระวังผลประกอบการกลุ่มปิโตรเคมี (ภัยแล้ง) // หุ้นแนะนำวันนี้ CHAYO*, ERW /เก็งกำไร STA* (เป้า 13, ตัดขาดทุน 11.20), TVO* (เป้า 30 ตัดขาดทุน 27)

แนวรับ 1566 จุด / แนวต้าน : 1580, 1600 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%.

 

ประเด็นการลงทุน

ECB คงดอกเบี้ย พร้อมย้ำเดินหน้า QE – ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% / อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% / อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% พร้อมเดินหน้ามาตรการ QE ต่อ

รัฐสภาอังกฤษไฟเขียวกฎหมาย Brexit – รัฐสภาอังกฤษอนุมัติร่างกฎหมายการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) เปิดทางให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปได้ในสัปดาห์หน้า

ประเมินสถานการณ์ธุรกิจ SME ดีขึ้นในไตรมาส 1/63 – ม.หอการค้า เผยผลสำรวจดัชนี SMEs ไตรมาส 4/62 ปรับลดลงทุกด้าน แต่คาดฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 1/63 จากผลของมาตรการส่งเสริม SME และ การลงทุนภาครัฐฯ

นายกฯ ยันไม่สมควรออก พ.ร.ก.กูเงินหลังงบประมาณปี 63 ล่าช้า – นายกฯ เผยยังไม่สมควรออก พ.ร.ก.กู้เงิน ในกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63 อาจล่าช้าออกไป

ค่าระวางเรือ – ปิดที่ 576 จุด ลดลง 47 จุด หรือ -7.54%

 

ประเด็นติดตาม: 24 ม.ค. – US Manufacturing PMI เดือน ม.ค., EU manufacturing Index เดือน ม.ค., 28 ม.ค. – US Consumer Confidence เดือน ม.ค., 29 ม.ค. – TH Industrial Production เดือน ธ.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)