เปิดใจ 'ชาวอู่ฮั่น' รู้สึกอย่างไร หลังถูกปิดเมือง

เปิดใจ 'ชาวอู่ฮั่น' รู้สึกอย่างไร หลังถูกปิดเมือง

ชาวอู่ฮั่นของจีนร้องขอความช่วยเหลือและแสดงความกังวลเรื่องการขาดแคลนอาหาร ขณะที่บางคนถึงกับน้ำตาคลอ หลังทางการสั่งปิดเมืองอู่ฮั่นไม่มีกำหนด เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรน่าเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.)

การปิดเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นต้นกำเนิดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ มีขึ้นก่อนถึงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่ชาวจีนหลายร้อยล้านคนจะออกเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ และรถยนต์เพื่อไปเยี่ยมญาติของตน และถือเป็นการเดินทางประจำปีของมนุษย์จำนวนมหาศาลที่สุดในโลก

ขณะที่ในโลกออนไลน์ คำค้นหาภาษาจีนที่แปลว่า “อู่ฮั่นถูกสั่งปิด” ถูกชาวเน็ตค้นหาบนแพลตฟอร์มเว่ยโป๋ที่คล้ายกับทวิตเตอร์ มากกว่าพันล้านครั้งนับถึงช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี และมีการโพสต์เกี่ยวกับประเด็นนี้ราว 344,000 โพสต์

ชาวอู่ฮั่นบางส่วนบอกว่า พวกเขาแทบร่ำไห้เมื่อได้อ่านข่าวทางการสั่งปิดเมือง

157986236881

“เราเลี่ยงการออกนอกบ้าน หมั่นฆ่าเชื้อโรค และสวมหน้ากากอนามัย” ผู้ใช้เว่ยโป๋รายหนึ่งโพสต์ “แต่ตอนนี้เกิดปัญหาขาดแคลนอาหารและยาฆ่าเชื้อโรคและเราต้องการทรัพยากรเพิ่ม เราหวังให้ทุกคนจะเข้าใจว่าเรากำลังรู้สึกเหมือนกับเป็นวันสิ้นโลก”

อ่านข่าว-'ชาวอู่ฮั่น' แย่งตุนสินค้าหวั่น 'ไวรัสโคโรน่า' ระบาดรุนแรง

ทางการจีนยืนยันวันนี้ (24 ม.ค.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นอย่างน้อย 25 คน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นอย่างน้อย 830 คน และได้สั่งปิดเมืองแห่งที่ 2 คือ หวงกัง ซึ่งอยู่ใกล้กับอู่ฮั่นแล้ว ทั้ง 2 เมืองมีประชากรรวมกันราว 17 ล้านคน

สภาพในเมืองตอนนี้มีประชาชนไม่กี่คนออกมาเดินเตร็ดเตร่ตามท้องถนน ถนนหนทางปราศจากรถรา กิจกรรมทางการถูกยกเลิก และสื่อรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการสั่งให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากขณะอยู่ในที่สาธารณะ

157984564858

แม้ทางการห้ามออกจากเมืองอู่ฮั่น แต่ไม่ได้ห้ามประชาชนเข้าเมืองนี้ ยังคงมีรถไฟจากต่างเมืองมาที่นี่อยู่บ้างแต่จำนวนผู้โดยสารเหลือบางตา รถไฟขบวนหนึ่งจากเซี่ยงไฮ้มีผู้โดยสารไม่กี่คนสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือ แต่บางคนก็ไม่สวมอะไรป้องกันเลย

“แผนการเดินทางของบางคนล่มเพราะผลกระทบจากคำสั่งปิดเมือง แต่แผนของผมไม่กระทบอะไร” หนุ่มแซ่เฟิ่ง วัย 28 ปี ซึ่งทำงานในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เผยกับเอเอฟพี

“ครอบครัวของฉันและตัวฉันเองไม่ได้ตื่นกลัวเลย” หญิงชาวอู่ฮั่นแซ่โจวที่โดยสารเที่ยวบินซึ่งแทบไม่มีคนกลับมาจากกรุงปักกิ่งพร้อมลูกวัย 8 ขวบเผย

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในเมือง ชาวท้องถิ่นกลับหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ผมไม่ได้ออกนอกบ้านมาประมาณ 2 วันแล้ว” หนุ่มแซ่เหมา วัย 26 ปีเล่า และว่า ครั้งสุดท้ายที่เขาออกจากบ้าน หน้ากากอนามัยมีราคาแพงกว่าปกติอยู่ที่ชิ้นละ 50 หยวน หรือราว 220 บาท หลังเขาซื้อหน้ากากบางส่วน คนที่ต่อคิวข้างหลังเขาก็เหมาซื้อหน้ากากที่เหลือทั้งหมดในร้าน

ชาวเมืองอู่ฮั่นบางส่วนโพสต์ในโลกออนไลน์ เรียกร้องให้รัฐบาลแจกจ่ายของใช้จำเป็นมากกว่านี้ และว่า ขณะนี้หน้ากากอนามัยไม่เพียงพอและราคาอาหารสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตหลายคนที่อยู่ในเมืองอื่น ๆ ต่างแสดงความเสียใจและกังวลแทนชาวอู่ฮั่น พร้อมขอให้ทุกคนปลอดภัย

ขณะที่ชาวเน็ตคนอื่น ๆ ตั้งคำถามว่าเหตุใดทางการอู่ฮั่นถึงไม่ปิดเมืองเร็วกว่านี้ และบางคนก็โทษว่า การระบาดของไวรัสโคโรน่าพันธุ์ใหม่เป็นเพราะชาวอู่ฮั่นบริโภคอาหารที่ทำจากสัตว์ป่า

ก่อนหน้านี้ วารสารด้านวิทยาศาสตร์ “ไชนา ไลฟ์ ไซแอนส์” เผยแพร่ผลงานวิจัยซึ่งได้รับความสนับสนุนจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนในกรุงปักกิ่ง เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ พบว่ามีความเป็นไปได้สูงว่า “ค้างคาว” จะเป็นพาหะ

ขณะที่รายงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเผยแพร่ผ่านวารสารวิทยาไวรัส ตั้งสมมติฐานว่าอาจมาจาก “งู” แม้รายงานวิจัยทั้ง 2 ชิ้นยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่า เชื้อโรคติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์ได้อย่างไร

“พวกเขามีความสุขกับการรับประทานสัตว์ป่ามากไหม?” ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งตั้งคำถาม “แสดงว่าไม่ได้เรียนรู้บทเรียนจากโรคซาร์สมากพอสินะ?”