บอร์ดกทพ. เดินหน้าแลกหนี้ ลงนาม 'บีอีเอ็ม' ไม่เกินก.พ.นี้

นายสุรงค์ บลูกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยภายหลังประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ที่ประชุมบอร์ดครั้งนี้ได้รับทราบความคืบหน้าของการจัดทำร่างสัญญาแนวทางยุติข้อพิพาททางด่วน ระหว่าง กทพ.และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีอีเอ็ม) โดยทราบว่าขณะนี้ร่างสัญญาดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบจากอัยการสูงสุด และคณะกรรมการกำกับตามมาตรา 43 แล้ว ขั้นตอนดำเนินการหลังจากนี้ กทพ.คาดว่าจะสามารถจัดส่งร่างสัญญาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายใน 1-2 วันนี้

“ร่างสัญญาที่ผ่านการพิจารณาจากทางอัยการและคณะกรรมการมาตรา 43 ตอนนี้ยังเป็นเรื่องของการอนุมัติขยายอายุสัมปทาน 15 ปี 8 เดือน ซึ่งปัจจุบัน หลังจากที่อัยการและคณะกรรมการมาตรา 43 ตรวจสอบ ก็ได้ส่งร่างสัญญาดังกล่าวให้กับทางบีอีเอ็มตรวจสอบแล้วด้วย จึงอยู่ระหว่างรอส่งให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนส่งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนนี้ส่วนตัวยังมั่นใจว่าจะแล้วเสร็จทันกรอบกำหนดไว้ในเดือน ม.ค.นี้”

อย่างไรก็ดี หากร่างสัญญาดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจาก ครม. จะนำเข้าสู่ขั้นตอนของการลงนามสัญญาร่วมกับบีอีอีเอ็ม รวมทั้ง กทพ.และบีอีเอ็มจะต้องเร่งถอนฟ้องทุกคดีความที่เคยเกิดขึ้น ร่างสัญญาจึงจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งเบื้องต้นก็ยังมั่นใจว่า จะสามารถเร่งรัดดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จทันกับอายุสัมปทานฉบับปัจจุบันที่กำลังจะหมดลงในวันที่ 29 ก.พ.นี้ แต่หากไม่ทันกำหนด เบื้องต้น กทพ. มีแนวทางแก้ไขปัญหา คือ 1. จ้างบีอีเอ็มบริหารชั่วคราว และ 2. กทพ. จะเป็นผู้บริหารโครงการชั่วคราว

นายสุรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อห่วงใยของสหภาพ กทพ. ในประเด็นของการลงบันทึกบัญชีหนี้สิน ที่อาจกระทบต่อภาพรวมผลประกอบการ และทำให้พนักงานไม่ได้รับโบนัสนั้น ตนขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกัน โดยปัญหาเรื่องโบนัสที่ยังไม่สามารถจ่ายได้ เกิดขึ้นจากขั้นตอนของการอนุมัติจากคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากขณะนี้ กทพ.ยังไม่ได้รับเอกสารผลการอนุมัติ ขณะที่เรื่องของการลงบัญชีหนี้สิน ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป และอยู่ระหว่างถามความเห็นจากทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

อย่างไรก็ดี การประชุมบอร์ด กทพ.ครั้งนี้ ยังรับทราบและไม่ได้ยับยั้ง การยื่นหนังสือลาออกของ นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่า กทพ. โดยจะมีผลเป็นทางการในวันที่ 6 ก.พ.นี้ ขณะเดียวกัน บอร์ดยังอนุมัติแต่งตั้ง นายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน เป็นรักษาการผู้ว่า กทพ. โดยการลงนามในสัญญายุติข้อพิพาททางด่วนระหว่าง กทพ.และบีอีเอ็มนั้น นายวิชาญ ก็จะเป็นผู้มีอำนาจลงนามแทน

นายสุรงค์ ยังเปิดเผยด้วยว่า บอร์ดมีมติอนุมัติผลการประมูล โครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านทิศตะวันตก ในส่วนของสัญญา 3 ที่กิจการร่วมค้าไชน่าเรลเวย์-ซีวิล-บุญชัย เป็นผู้ยื่นข้อเสนอต่ำสุด 6,098 ล้านบาท โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะเปิดให้อุทธรณ์ผลการประมูล หากไม่มีผู้ยื่นอุทธรณ์ ก็คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนได้ภายในเดือน ก.พ.นี้

ขณะเดียวกัน กทพ. ยังมีกำหนดลงนามสัญญา 2 ซึ่งเป็นการก่อสร้างงานโยธา โครงการทางด่วนพระราม 3 ระยะทาง 5.3 กม. มีราคากลาง 7,242 ล้านบาท เอกชนที่ชนะการประมูล คือ กิจการร่วมค้า CTB ซึ่งประกอบด้วย China Harbour Engineering Company Limited,บริษัท ทิพากร จำกัด และบริษัท บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง จำกัด โดยยื่นข้อเสนอต่ำสุดอยู่ที่ 6,440 ล้านบาท โดยมีกำหนดลงนามสัญญาในวันที่ 29 ม.ค.นี้