'มะม่วงหิมพานต์' เวียดนามโต ตลาดโลกหนุนส่งออก

'มะม่วงหิมพานต์' เวียดนามโต ตลาดโลกหนุนส่งออก

 สมาคมผู้ประกอบการผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนาม ตั้งเป้าส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2563

     ในช่วงปี 2562 ผ่านมานั้น ภาคอุตสาหกรรมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนาม มีการนำเข้าวัตถุดิบเม็ดมะม่วงหิมพานต์มากถึง 1.5 ล้านตัน จากประเทศแอฟริกา เพื่อนำวัตถุดิบดังกล่าวตอบสนองความต้องการด้านการแปรรูป และการผลิต โดยภายในเดือนพ.ย.ปี 2562 เวียดนาม สามารถส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในปริมาณกว่า 418,000 ตัน มูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่อย่าง สหรัฐ รองลงมาคือ จีน และเนเธอร์แลนด์

                 ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม แสดงให้เห็นว่า การค้าสินค้าเกษตรในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา มียอดเกินดุลการค้ามากถึง 8.8 พันล้านดอลลาร์ โดยในส่วนภาคการเกษตรมีมูลค่าการค้า 37.3 พันล้านดอลลาร์ มีการส่งออกสินค้าเกษตร และป่าไม้ และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

      แต่การตั้งเป้าส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะเป็นจริงได้ เวียดนามต้องฝ่าฟันความท้าทายหลายด้านให้ได้ รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร หากเวียดนามสามารถทำได้ตามเกณฑ์ จะช่วยให้รายได้ในตลาดส่งออกของเวียดนามขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

       ส่วนตลาดจีน เป็นตลาดที่เวียดนามส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าเวียดนามจะเผชิญความท้าทายในการส่งออกสินค้าไปยังจีน เนื่องมาจากการเข็มงวดของคุณภาพสินค้าและการค้าข้ามพรมแดน แต่ข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่า ปริมาณส่งออกเม็ดม่วงหิมพานต์ไปยังจีนเพิ่มขึ้นกว่า 58,100 ตัน คิดเป็นมูลค่า 447.2 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ที่มีการเพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า 

        การส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนามขยายตัวอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ปี 2558  โดยปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่ปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ประมาณ 2,812,500 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดต่างๆในภาคตะวันออกเฉียงใต้ เช่น บิ่งเฟือก บ่าเหรียหวุงเต่า ด่งนาย และเขตเตยเหวียน และอาจขยายพื้นที่ปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ไปยังท้องถิ่นต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการส่งออก

       หลายปีมานี้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนาม ที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2558 เวียดนามสามารถส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ได้ 3.3 แสนตันไปยัง 80 ประเทศและดินแดน คิดเป็นมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์  โดยสหรัฐ จีนและยุโรปเป็นตลาดส่งออกหลัก 

       ‘ดั๋ง หว่างยาง’ เลขาธิการสมาคมมะม่วงหิมพานต์เวียดนาม  เผยว่า ในบรรดาผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนาม เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นหนึ่งใน2ผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีการเพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า และนี่เป็นปีที่10ติดต่อกันที่เวียดนามมีมูลค่าการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์สูงที่สุดในโลก ซึ่งคิดเป็น 50% ของมูลค่าการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในทั่วโลก

  อย่างไรก็ดี เวียดนาม ยังส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ยังไม่ได้ผ่านการแปรรูปมากถึง90% ของปริมาณการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์โดยรวม ทำให้หน่วยงานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ตั้งเป้าว่า จะผลักดันการแปรรูปและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ต่อไป

157976527843

 ปัจจุบัน เวียดนาม ส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ไม่ผ่านการแปรรูปไปยังตลาดใหญ่ ที่มีมาตรฐานที่เข้มงวดด้านคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร เช่น สหรัฐ อียู ญี่ปุ่นและจีน แต่เทคโนโลยีการแปรรูปของบริษัทส่งออกใหญ่ๆของเวียดนามยังมีข้อจำกัด 

 

 "เหวียน กวางเฮวียน" ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนส่งออกหว่างเซิน จังหวัดบิ่งเฟือก ให้ความเห็นว่า สิ่งสำคัญที่สุดในปัจจุบันคือ รัฐต้องมีนโยบายช่วยเหลือบริษัทส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในการผลักดันการลงทุนด้านเทคโนโลยีการแปรรูป เพิ่มความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์และขยายตลาด 

“ปัจจุบัน มีสถานประกอบการแปรรูปขนาดใหญ่กว่า160 แห่ง ในจำนวนนี้มีสถานประกอบการประมาณ 30 แห่งที่เริ่มลงทุน สร้างเครื่องหมายการค้าให้แก่ผลิตภัณฑ์ ใช้มาตรฐานความปลอดภัยอาหารระดับสากลเพื่อเจาะตลาดโลก ซึ่งแนวโน้มนี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต”นายเหวียน กล่าว

157976529656

              นอกจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว บรรดาผู้ประกอบการผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังเน้นเรื่องการพัฒนาตลาด ผลักดันการลงทุนด้านเทคโนโลยีการแปรรูปและสร้างเครื่องหมายการค้า ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลด้านเม็ดมะม่วงหิมพานต์เวียดนามจะให้ความสนใจเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยด้านอาหารเพื่อลดความเสี่ยงในการผลิตและการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลเวียดนามพยายามเพิ่มผลผลิตภายในประเทศ เพื่อลดการนำเข้า และวางแผนขยายการปลูกเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ในกัมพูชา และสปป.ลาว เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง และควบคุมคุณภาพเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ให้สม่ำเสมอ แต่เวียดนามก็กดดันอย่างหนักจากคู่แข่งอย่างจีน และอินเดีย ที่ประกาศแผนย้ายฐานการแปรรูปเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ไปใกล้แหล่งวัตถุดิบในแอฟริกา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และต้องการล้มแชมป์ผู้ส่งออกเบอร์หนึ่งโลกอย่างเวียดนาม

    ทั้งนี้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นสินค้าเกษตรที่เวียดนามส่งออกมากเป็นอันดับต้นๆ รองจากข้าว ยางพารา และกาแฟ และด้วยยอดส่งออก 2 พันล้านดอลลาร์ทำให้เวียดนามยังคงเป็นประเทศผู่ส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์อันดับ 1 ของโลกติดต่อกันถึง 9ปี