สธ.สรุปสถานการณ์ล่าสุด 'ไวรัสโคโรน่าพันธุ์ใหม่ 2019'

สธ.สรุปสถานการณ์ล่าสุด 'ไวรัสโคโรน่าพันธุ์ใหม่ 2019'

สธ.เผยแพร่รายงานสถานการณ์ ไวรัสโคโรน่า 2019 ฉบับที่ 19 ระบุ 22 ม.ค. 63 พบผู้ป่วยนอกประเทศจีนเพิ่ม 5 ราย ใน 5 พื้นที่ สหรัฐอเมริกา มาเก๊า ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ส่วนไทยผู้ป่วยยืนยัน 4 ราย รอผลตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ 15 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค(คร.) ได้ออกรายงานสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ฉบับที่ 19 เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 22 ม.ค.2563 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด ระบุว่า สถานการณ์ในต่างประเทศ วันที่ 22 ม.ค. 2563 พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่ประเทศ จีน นอกเมืองอู่ฮั่น จำนวนทั้งสิ้น 22 รายอยู่ในเมืองปักกิ่ง 5ราย และเมืองกวางตุ้ง 17 ราย นอกจากนี้พบผู้ป่วยยืนยันนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ จำนวน 5 ราย อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา มาเก๊า ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รายละเอียดดังนี้ วันที่ 21 ม.ค. 2563 ประเทศสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ ใหม่ 1 ราย มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น
        

เขตการปกครองพิเศษฮ่องกงพบผู้เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นเข้าได้กับเกณฑ์ทั้งหมด 118 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้ป่วย 81ราย พบเชื้ออื่นที่ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เขตปกครองพิเศษมาเก๊า พบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย เพศหญิง 52 ปี มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ประเทศสิงคโปร์ พบผู้ป่วยสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 7 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 6 ราย ประเทศไต้หวัน พบผู้ป่วยเข้าได้กับเกณฑ์สงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 8 ราย โดยเป็นผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย
       

วันที่ 20 ม.ค. 2563 สาธารณรัฐเกาหลีใต้พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ ใหม่ 1 ราย มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น วันที่ 19 ม.ค. 2563 ประเทศเนปาล พบผู้ป่วยสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 1 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ และติดตามอาการผู้สัมผัสจำนวน 29 ราย วันที่ 16 ม.ค. 2563 ประเทศเวียดนามรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ ใหม่ 2 ราย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัส วันที่ 15 ม.ค.2563 ประเทศญี่ปุ่นรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 1 ราย เป็นชายอายุ 30 ปี เริ่มป่วย 3 มกราคม 2563 เข้ารับการรักษาในวันที่ 10 มกราคม 2563 หรือ 1สัปดาห์ หลังจากกลับมาที่ญี่ปุ่น ด้วยอาการไข้ และไอ ปัจจุบันอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลแล้ว มีรายงานการติดเชื้อ ระหว่างสมาชิกในครอบครัวแต่ยังไม่พบการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์ 

สถานการณ์ภายในประเทศ กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการเฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานกระบี่ (เริ่มคัดกรองวันที่ 17 ม.ค. 2563) ตั้งแต่วันที่ 3 – 22 ม.ค. 2563 จำนวน 130 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง ทั้งสิ้น 20,630 ราย โดยในวันที่ 22 ม.ค. 2563 พบผู้ป่วยอาการเข้าได้ตามนิยามเพิ่มขึ้น จำนวน 8 ราย ทำให้รวมพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้ตามนิยามทั้งหมด 46 ราย 

โดย 22 ราย คัดกรองได้ที่สนามบิน และผู้ป่วยที่มีอาการเข้าตามนิยามไปรับการตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลเอกชน 15 ราย โรงพยาบาลรัฐ 6 ราย และสถาบันบำราศนราดูร 3 ราย และในจำนวนนี้ได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ 8 ราย ในจ.นครปฐม กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต สถาบันบำราศนราดูร 6 ราย และ โรงพยาบาลเอกชน 2 ราย รวม 16 ราย ไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรง ผู้ป่วยอาการดีขึ้นและได้กลับบ้านแล้วจำนวน 30 ราย พบผู้ป่วยยืนยัน 4 ราย และรอผลตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ 15 ราย
          

มาตรการในประเทศไทย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เป็นระดับ 3 เพื่อติดตาม สถานการณ์โรคทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการทรัพยากร เสริมสร้างความเข้มแข็ง ของระบบการเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสที่มาจากต่างประเทศ โดยเน้นการคัดกรองไข้ ณ ช่องทางเข้าออกประเทศที่ท่าอากาศยาน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ตและกระบี่ เพิ่มการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล สนับสนุนการเตรียมความพร้อมสำหรับรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยครอบคลุมระบบบริการสาธารณสุขทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนแหล่งท่องเที่ยว โดยบูรณาการการ ทำงานร่วมกันของกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาส านักงานตำรวจ แห่งชาติและ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และจัดท ารายงานสถานการณ์ฉบับ ภาษาอังกฤษและใบความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคในฉบับภาษาต่างประเทศ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์กรมควบคุมโรค