กังวลโรคระบาด

กังวลโรคระบาด

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงเล็กน้อย และแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดช่วงการซื้อขาย คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกสลับลบ

คาดตลาดถูกกดดันจากความกังวลของโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ตลาดภายในประเทศถูกกดดันจากการเผยยอดส่งออก ธ.ค. หดตัว 1.28% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,574.59 จุด (-0.35 จุด) Volume 7.3 หมื่นลบ. ต่างชาติ +92.79 ลบ. TFEX Net  -10,707 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+/-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงเพียงเล็กน้อย 9.77 จุด -0.03% หลังจีนประกาศมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.64 ดอลลาร์ -2.8% ปิดที่ 56.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก IEAคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

-ก.พาณิชย์ เผย ธ.ค.ส่งออกหดตัว -1.28% ทั้งปี 62 ส่งออก -2.65%

-ธปท.แจ้งว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 62 ที่ 0.71% หลุดกรอบเป้าหมายเป็นปีที่ 4 และคาดปีนี้จะยังหลุดกรอบต่อไป โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 0.8% ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินในปีนี้ที่ค 1-3%

-ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค.62 ลดลงจากเดือน พ.ย.62 เนื่องจากกังวลกำลังซื้อ ภัยแล้งกระทบรายได้ภาคเกษตร เงินบาทแข็งค่ากดยอดส่งออก และศก.โลกผันผวน

-การเบิกจ่ายงบประมาณต้องล่าช้าออกไปเพราะรอผลการตรวจสอบกรณีเสียบบัตรแทนกันในการลงมติ

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 4,099.06 ลบ. ค่าเงินบาท 30.380 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง โดยนักลงทุนยังคงกันวลการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจเกิดการกลายพันธุ์ ประกอบกับถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรง คาดคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,565-1,580 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (BH BCH BDMS)
  • หลีกเลี่ยงกลุ่มสายการบิน (THAI AAV NOK) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW MINT)
  • กลุ่มที่ไม่มีประเด็นลบ เช่น ค้าปลีก (CPALL MAKRO) ส่งออก (KCE)

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นกลุ่มธนาคารรายงานผลการดำเนินงานปี 62 ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 61 แม้ BBL SCB มีกำไรจากการขายเงินลงทุน แต่มีคชจ.สำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น ให้น้ำหนักการลงทุน “Neutral” แนะนำ TISCO, KKP, BBL)

หุ้นมีข่าว   

(+) S (Bloomberg Consensus 3.71 บาท)   ตั้งเป้าปี 63 มียอดโอน 5,500-6,000 ล้านบาท หรือโต 10% จากปี 62 ล่าสุดตุนแบ็กล็อก 7,500 ล้านบาท ทยอยบุ๊กปี 63-64 เล็งเปิดโครงการแรกของปี ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำมูลค่า 4,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 22-23 ก.พ.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ANAN (Bloomberg Consensus 3.18 บาท) คาดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ส่งผลบวกหนุนตลาดอสังหาฯ ปี 63 กลับมาฟื้นตัว พร้อมกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค ล่าสุดโชว์สินค้าระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 6,000 ล้านบาท คาดจะได้รับประโยชน์จากโครงการบ้านดีมีดาวน์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TSR (Bloomberg Consensus 2.50 บาท)  เผยไตรมาส 1/63 ยอดขายเติบโต รับอานิสงส์เกิดวิกฤตน้ำกร่อย หนุนประชาชนแห่ซื้อเครื่องกรองน้ำมากขึ้น แถมมีการเพิ่มทีมขายตรงขึ้นเป็น 210 ทีม ลั่นครึ่งปีแรกโกยยอดขาย 100 ล้านบาท/เดือน มั่นใจดันยอดขายรวมปี 63 พุ่ง 1.9 พันล้านบาท หรือโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 62 ชี้เครื่องกรองน้ำแบบระบบ RO มาแรง! ดีมานด์ในกรุงเทพฯ พุ่ง 3 เท่า (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) WP (Bloomberg Consensus - บาท) นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 103,700,000 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) ICN (Bloomberg Consensus - บาท)  แย้มแผนควงพาร์ตเนอร์ชิงโปรเจ็กต์ยักษ์พันล้านบาท ปักเป้าแบ็กล็อกปีนี้แตะ 2 พันล้านบาท จากปัจจุบัน 1.2 พันล้านบาท จ่อบุ๊กเข้าพอร์ต 50% สบช่องรับงานเพิ่มจากการประมูล 5G พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 10-20% เตรียมส่งมอบงานตามแผน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TAPAC (ราคาเหมาะสม - บาท) บอร์ด TAPAC ไฟเขียวจ่ายปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2562 ในอัตรา 0.06 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินวันที่ 24 มีนาคม 2563 พร้อมแจก TAPAC-W4 จำนวน 209,711,450 หน่วย ในอัตรา 2 ต่อ 1 ราคาแปลงสิทธิ 9 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BAM (Bloomberg Consensus - บาท)  เผยคืนหุ้นให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ รวมเป็นจำนวน 230,000,000 หุ้น เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา พร้อมติดไซเลนต์ พีเรียด 1 ปี 6 เดือน ล่าสุดเปิดสำนักงานภูเก็ตตามกลยุทธ์ขยายสาขาครอบคลุมในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)

 (+) THANI (Bloomberg Consensus 6.58 บาท) เปิดเผยปี 2563 เชื่อแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำหนุนการเติบโต ลุยปล่อยสินเชื่อรถบรรทุก มองการแข่งขันไม่สูงจากการเป็นผู้นำสินเชื่อตลาดเฉพาะกลุ่ม เดินหน้าออกโปรดักต์สินค้าใหม่เพิ่ม ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่โต 10% หรือ 2.6 หมื่นล้านบาท ดันพอร์ตรวมทะยาน 5.5-5.6 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PSTC (ซื้อ ราคาเหมาะสม 0.88) ได้รับหนังสือสนองซื้อจาก PTT ในโครงการซื้อขายผลิตภัณฑ์พลังงาน มูลค่ากว่า 250 ลบ.

ความเห็น การตอบรับการซื้อขายผลิตภัณฑ์จาก PTT จะช่วยให้ธุรกิจ ILNG ของบริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามแผน ขณะที่เรามีมุมมองบวกต่อกำไรปกติในช่วง 4Q62 โดยคาดว่าจะเติบโตเติบโต 76%YoY และ 90%QoQ สู่ 40 ลบ. โดยได้รับแรงหนุนจากโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สที่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์หลัก Soot Blower เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตั้งแต่เดือน ก.ย. 62 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีรายได้จากการก่อสร้างคลังน้ำมันราว 45 ล้านบาทเข้ามาใน 4Q62 (มูลค่าก่อสร้างรวม 1 พันล้านบาทระยะเวลา 22 เดือน)