TOP ร่วงแรง เหตุนลท.วิตกเชื้อไวรัสโคโรน่าฉุดราคาน้ำมันดิ่ง

TOP ร่วงแรง เหตุนลท.วิตกเชื้อไวรัสโคโรน่าฉุดราคาน้ำมันดิ่ง

"ไทยออยล์" ราคาหุ้นลดลงรุนแรงกว่า 6.90% เหตุนักลงทุนหวั่นผลกระทบหุ้นโรงกลั่น หลังโกลด์แมน แซคส์ ออกมาระบุว่ามีแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันลดลงอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ฉุดราคาน้ำมันดิบลงราว 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเปิดตลาดเช้านี้พบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือTOP ปรับตัวลดลงรุนแรงกว่า 6.90% โดยมาอยู่ที่ระดับ 54.00 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 4.00 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายราว 566 ล้านบาท หลังมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงราว 2.8% หรือหลุดต่ำกว่า 57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าคาดว่าราคาหุ้น TOP ที่ปรับตัวลดลงแรงในช่วงเช้านี้นั้น น่าจะเกิดจากความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อหุ้นโรงกลั่น หลังมีบทวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ออกมาระบุว่ามีแนวโน้มที่ประเทศจีนจะมีความต้องการใช้น้ำมันลดลงอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยเฉพาะตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินคาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด หากการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวทำให้การเดินทางทางอากาศในภูมิภาคลดลง และอาจเป็นปัจจัยฉุดราคาน้ำมันดิบลงราว 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกยังปรับตัวลดลงรุนแรง หลัง EIA คาดว่าจะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดจำนวน 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 ซึ่งจะเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี พร้อมคาดว่าการประกาศงบของ TOP ในช่วงไตรมาส 4 ปี2562 อาจออกมาไม่ดีนัก โดยคาดว่ามีกำไรเพียงหลัก 200-300 ล้านบาท หลังจากค่าการกลั่นยังอยู่ในระดับต่ำ

"คาดว่า TOP ถูกนักลงทุนเทขาย เนื่องจากความกังวลต่อทิศทางธุรกิจ หลังจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาไม่ได้สอดคล้องกับพื้นฐานจริง ซึ่งเมื่อมีปัจจัยลบเข้ามากดดันจึงถูกเทขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตามยังคงคำแนะนำถือ เนื่องจากมองว่าตอนนี้ดาวไซด์เริ่มจำกัด แต่กำไรในช่วงไตรมาสแรกปีนี้อาจยังไม่ดีนัก"