‘เน็ตฟลิกซ์’ เจอศึกหนักปี 63

ยักษ์ใหญ่ทีวีสตรีมมิงรายนี้ แถลงว่า ไตรมาส 4 ของปี 2562 ทำผลงานเหนือความคาดหมาย กำไร 587 ล้านดอลลาร์ รายได้เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์ สมาชิกทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด 8.8 ล้านคน ทะลุ 167 ล้านคน แต่อเมริกาเหนือได้สมาชิกใหม่น้อยกว่าคาดอยู่ที่ 550,000 คน ในจำนวนนี้อยู่ในสหรัฐ 420,000 คน

เน็ตฟลิกซ์คาดว่าไตรมาสแรกของปีนี้จะได้สมาชิกใหม่ราว 7 ล้านคน ต่ำกว่าสถิติที่เคยทำไว้เมื่อไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้ามาก

สเปนซ์ นิวแมนน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) เน็ตฟลิกซ์กล่าวว่า ในสหรัฐมีความปั่นป่วนทั้งในแง่ราคาและการแข่งขัน คาดว่าปีนี้การแข่งขันทั่วโลกจะยิ่งดุเดือดทั้งปี เน็ตฟลิกซ์กำลังเตรียมการรับผลกระทบต่อธุรกิจ

สำหรับไตรมาสปัจจุบัน เน็ตฟลิกซ์ซึ่งมีฐานปฏิบัติการในแคลิฟอร์เนีย ปรับลดคาดการณ์ลงเนื่องจากบริการใหม่ๆ เช่น แอ๊ปเปิ้ลทีวีพลัส ดิสนีย์พลัส และพีค็อกของเอ็นบีซีที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้กำลังแข่งกันแย่งผู้ชม

คณะผู้บริหารเน็ตฟลิกซ์มองว่า การที่บริษัทสื่อและเทคโนโลยีหลายรายกำลังรุกให้บริการสตรีมมิง การดูทีวีจะเปลี่ยนจากการดูผ่านบริการเคเบิลไปสู่บันเทิงแบบสตรีมมิงในไม่ช้า

“เราใช้กลยุทธ์พื้นฐานแบบเดิมๆ มานาน 20 ปี เอาใจสมาชิกแล้วสมาชิกก็ช่วยให้เราโต ในทศวรรษหน้าคาดว่าต้องใช้ทรัพยากรสำคัญให้ดียิ่งขึ้น” รีด แฮสติงส์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีีอีโอ) เน็ตฟลิกซ์กล่าว​

ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์กำลังเพิ่มผลงานฝีมือการผลิตของนานาชาติ หลังจากงานที่บริษัทผลิตเองหลายชิ้นเช่น เดอะ คราวน์ และ สเตรนเจอร์ธิงส์กำลังไปได้สวยในหลายตลาดนอกสหรัฐที่การแข่งขันแรงขึ้นมาก

เอริก แฮกสตรอม นักวิเคราะห์จากอีมาร์เก็ตเตอร์ กล่าวว่า เน็ตฟลิกซ์จบปี 2562 อย่างสวยงามได้สมาชิกใหม่เพิ่มเหนือความคาดหมาย แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายด้วย

“เน็ตฟลิกซ์จำเป็นต้องผลิตผลงานฮิตต่อไป เมื่อดิสนีย์ แอ๊ปเปิ้ล เอชบีโอ และอื่นๆ เปิดตัวและเพิ่มบริการใหม่ๆ ขนาดของเน็ตฟลิกซ์เปิดให้บริษัทเข้าถึงผู้ชมจำนวนมหาศาลได้ จึงง่ายที่จะผลิตเนื้อหาให้ถูกใจคนดูเมื่อเทียบกับผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาด” แฮกสตรอมกล่าวและว่าดิสนีย์พลัสเป็นภัยคุกคามต่อบริการเคเบิลทีวีดั้งเดิมมากยิ่งกว่าเน็ตฟลิกซ์

“ดิสนีย์จะให้บริการระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว แต่บริการแบบนี้ก็มีหลายเจ้า เราแข่งขันหนักมากกับยูทูบ และจำนวนการชมต่อสมาชิกก็เพิ่มขึ้น ทั้งหมดมาจากคนดูทีวีปกติ” แฮสติงส์กล่าว

เน็ตฟลิกซ์แจ้งด้วยว่ากำลังเปลี่ยนวิธีคำนวณความนิยมของรายการ เดิมผู้ชมจะต้องดูภาพยนตร์ซีรีส์ หรือโชว์ไม่น้อยกว่า 70% ของเนื้อหา จึงจะถือว่าครัวเรือนรับชมรายการนั้นๆ แต่วิธีใหม่แค่ดูอย่างน้อย 2 นาทีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว “เพราะนานพอจะชี้ว่าผู้ชมตั้งใจชม”

“เนื่องจากเรามีผลงานความยาวแตกต่างกันมาก การยึดเกณฑ์ต้องชม 70% ของซีรีส์ 1 ตอน หรือภาพยนตร์ 1 เรื่องอย่างที่เคยทำไม่ค่อยสมเหตุสมผล” ยักษ์ใหญ่บริการสตรีมมิงอธิบาย ซึ่งวิธีใหม่นี้คล้ายกับที่ยูทูบใช้นับยอดวิว ส่งผลให้ยอดผู้ชมเพิ่มขึ้นราว 35%

แฮสติงส์ยืนยันหนักแน่นว่า เน็ตฟลิกซ์ไม่มีแผนทำธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ระบุ บริษัทไม่สนใจต่อกรกับอเมซอน เฟซบุ๊ค และกูเกิลในตลาดนี้

“จริงๆ แล้วเราสนใจแค่การทำให้สมาชิกแฮปปี้ เราอยากเป็นที่พักผ่อนที่ปลอดภัย ที่คุณได้สนุก ตื่นเต้น เฮฮา ผ่อนคลาย โดยไม่ต้องถูกวิจารณ์ว่ามีโฆษณามาฉกฉวยประโยชน์จากผู้ชม”

ส่วนราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ในวันอังคาร (21 ม.ค.)เปิดตลาดไม่กี่ชั่วโมงราคาแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบๆ ลดลงบ้างเล็กน้อยแล้วปรับขึ้นราว 2.2%