‘WHOไทย’คาดจะเจอผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า2019ในพื้นที่เพิ่มอีก

‘WHOไทย’คาดจะเจอผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า2019ในพื้นที่เพิ่มอีก

ผู้เชี่ยวชาญไทยคาดประเทศอื่นรายงานผู้ป่วยติดโคโรนาพันธุ์ใหม่มากขึ้น ระบุไวรัสกลายพันธุ์เกิดได้ตลอดเวลา อาจทำเชื้อรุนแรงขึ้น-รุนแรงลดลง ขณะที่ฮูไทยระบุจะเจอผู้ป่วยในประเทศเพิ่มขึ้นอีก เชื่อว่าไทยจะสามารถล็อค และเข้าสู่ระบบการรักษาได้ทุกราย

         รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019ว่า ข้อมูลที่มีตอนนี้ ที่เรารู้คือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อยู่ในกลุ่มที่มีความใกล้เคียงกับโรคซาร์ แต่โรคซาร์กว่าเราจะรู้ตัวใช้เวลาหลายเดือนและมีคนเสียชีวิตเป็น 10 ราย แต่เชื้อใหม่นี้ ยังมีข้อจำกัดที่เมืองอู่ฮั่น ส่วนกรณีที่พบผู้ป่วยในเมืองอื่นหรือประเทศอื่นก็มีประวัติเดินทางไปอู่ฮั่นทั้งสิ้น ทั้งนี้ สถานการณ์ที่จีนที่มีการรายงานผู้ป่วยและเสียชีวิแล้ว เป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15-89 ปี กรณีการติดต่อจากคนสู่คน พบว่ามี 15 คน ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ โดยในจำนวนนี้มีอาการรุนแรง 1 ราย ส่วนระยะฟักอยู่ตัวที่ 2-14 วัน ส่วนกรณีการเปิดเผยว่าเชื้อนี้มีการกลายพันธุ์นั้น ก็ยังไม่แน่ชัด แต่การกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติ อาจจะทำให้เชื้อรุนแรงขึ้น หรือรุนแรงลดลงก็ได้
        “ความรุนแรงของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะรุนแรงแค่ไหนยังตอบไม่ได้ แต่ในสัปดาห์หน้าไทยจะวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย 4 รายที่ไทยพบอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ทราบตอนนี้คืออาการผู้ป่วยที่พบในไทยเบากว่าที่จีน ซึ่งมีความรุนแรงจนถึงเสียชีวิต เป็นสิ่งที่มีความแตกต่างกัน เป็นเรื่องที่ทางการแพทย์จะต้องศึกษาต่อไป แต่ถ้ามองในทางปฏิบัติคือคนที่จะขึ้นเครื่องบิน เดินทางได้คือเขามีอาการปกติ ส่วนผู้ป่วยที่จีนอาจเพราะป่วยมากจึงมีทั้งผู้ป่วยอาการน้อย ปานกลาง และรุนแรง และที่เสียชีวิตนั้นเป็นผู้สูงอายุและมีแนวโน้มมีโรคประจำตัว ซึ่งปกติคนสูงอายุจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายอ่อนแอ ทั้งนี้ หากองค์การอนามัยโลกประกาศยกระดับการเฝ้าระวังโรค ประเทศต่างก็จะทำงานมากขึ้นก็จะเจอผู้ป่วยและมีรายงานมากขึ้นในประเทศต่างๆ เพราะตามปกติการตรวจเชื้อไวรัส ถ้าตรวจมากก็เจอมาก ไม่ตรวจเลยก็ไม่เจอเลย ส่วนสถานการณ์ของประเทศไทยก็จะซึมเรื่อยๆ”รศ.(พิเศษ)นพ.ทวีกล่าว
      
        นายแดเนียล เคอร์เทส ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลกกำลังศึกษาการระบาด ความรุนแรง และการติดต่อจากคนสู่คน ของโรคนี้ ซึ่งยังไม่สามารถสรุปแน่นอนได้ แต่อนุมานว่าการติดเชื้อจากคนสู่คนนั้นเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกขอชื่นชมความรวดเร็วของระบบการควบคุมป้องกันโรคของประเทศไทย สิ่งที่สธ.ของไทยได้ลงทุนกับบุคลากร รวมถึงระบบในการดูแลคนไข้ แม้ว่าจะเสียค่ารักษาแต่ก็คุ้มค่าที่ทำให้สามารถรักษาสถานะและควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะต้องเจอผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถล็อคไว้ได้ทุกราย และเข้าสู่ระบบการรักษาได้ทุกราย