PTTGC - ถือ

PTTGC - ถือ

ประมาณการ 4Q62: พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก

Event

ประมาณการ 4Q62

Impact

คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q62F จะลดลงอย่างมากถึง 94% YoY และ 91% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTTGC ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 249 ล้านบาท (-94% YoY, -91% QoQ) ลดลงอย่างมากเนื่องจาก spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย spread ของ HDPE, LLDPE, LDPE และ PP ใน 4Q62 ลดลงถึง 21%-53% YoY และ 14%-34% QoQ เหลือ US$301/ton, US$298/ton, US$416/ton และ US$509/ton ตามลำดับ เนื่องจากมีอุปทาน HDPE ใหม่ 5MTA และ PP ใหม่ 7MTA ที่จะเพิ่มเข้ามาในตลาดในปี 2563 นอกจากนี้ spread ของ PX ก็ลดลง 9% QoQ เหลือ US$259/ton และ spread ของ BZ ก็ลดลง 16% QoQ เหลือ US$130/ton เนื่องจากจะมีอุปทาน PX ใหม่อีก 9.1MTA เพิ่มเข้ามาในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกและตะวันออกกลางในปี 2563 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของอุปทานในอดีตที่ปีละ 2.0MTA ในขณะเดียวกันเราก็คาดว่ากำไรจากธุรกิจโรงกลั่นจะลดลง QoQ เนื่องจากบริษัทมีการปิดโรงกลั่น 54 วันใน 4Q62 ส่งผลให้อัตราการกลั่นลดลง 52% QoQ เหลือ 70KBD แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า base GRM ของ PTTGC จะขยับเพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น US$4.5/bbl หลังจากที่บริษัทสามารถผลิต LSFO ได้และเริ่มขายมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ในขณะที่คาดว่าบริษัทจะรับรู้กำไรจากสต็อกน้ำมัน 198 ล้านบาทใน 4Q62 จากที่ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 372 ล้านบาทใน 3Q62

จีนจะห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้ว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนได้ประกาศนโยบายใหม่ห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ย่อยสลายไม่ได้และหลอดพลาสติกที่ใช้เพียงครั้งเดียวในเขตเมืองใหญ่ตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นต้นไป และจะบังคับใช้ในเขตเมืองรองและเมืองเล็กๆ ทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2565 โดยจะยังคงผ่อนปรนให้กับตลาดสดไปจนถึงปี 2568 ทั้งนี้ ธุรกิจร้านอาหารจะต้องลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวลง 30% ในอีกห้าปีข้างหน้า ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมจะต้องเลิกแจกผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวภายในปี 2568 โดยนโยบายใหม่ของจีนนี้น่าจะส่งผลกระทบกับตลาดพลาสติกโลก เพราะจีนเป็นทั้งผู้ผลิตพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดและเป็นผู้ที่ใช้ถุงพลาสติกมากที่สุดในโลกด้วย ซึ่งเราเชื่อว่าประเด็นนี้จะส่งผลกระทบกับ PTTGC อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากรายได้ 5-7% มาจากประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีแผนจะลดการผลิตสินค้าพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวลงภายในอีกห้าปีข้างหน้าอยู่แล้ว

Valuation & Action

ถึงแม้ว่าเราจะยังคงคำแนะนำ ถือ PTTGC และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 50.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 7.0x แต่เราเชื่อว่าประมาณการกำไรที่อ่อนแอใน4Q62 และนโยบายใหม่ของจีนที่จะห้ามการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจะทำให้ PTTGC underperform ดัชนี SET นอกจากนี้ เรามองว่าราคา
เป้าหมายของเรายังมี downside อีกเพราะเราใช้สมมติฐาน spread ของ HDPE ปี 2563 ที่ US$400/ton แต่ในเดือนมกราคม spread ตัวนี้อยู่ที่ประมาณ US$250/ton ทั้งนี้เราพบว่าถ้าหาก spread ของ PE ในปี 2563 ลดลงจากสมมติฐานของเราทุกๆ US$50/ton จะทำให้ราคาเป้าหมายของเราลดลง 2.00 บาท/หุ้น ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้น PTTGC ตลอดปีนี้ เนื่องจากเรามองลบกับแนวโน้มตลาด olefins

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ปิโตรเคมี