'นครบาล' คุมเข้มรถควันดำทั่วกรุงฯ 33 จุด เร่งขจัดละอองฝุ่น PM2.5

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 63 พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร กล่าวถึงมาตรการควบคุมและป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับนโยบายจากรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญและต้องเร่งแก้ไขให้ได้ โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้บังคับใช้กฎหมายในการตรวจวัดควันดำตามจุดเสี่ยงต่างๆ 17 จุด พร้อมทั้งบูรณการร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตรวจวัดควันดำอีก 16 จุด รวมทั้งหมด 33 จุด บริเวณกรุงเทพฯชั้นในและชั้นนอก โดยเฉพาะบริเวณถนนสามเสน ถนนพระราม 4 ถนนลาดพร้าว ซึ่งพบว่ามีปริมาณฝุ่น PM2.5 หนาแน่น

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยอีกว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้พิจารณาห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ในช่วงเวลาเร่งด่วน คือช่วงเช้า 05.00-09.00 น. และช่วงเย็น 15.00-21.00 น. เนื่องจากรถบรรทุกใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น PM2.5 ส่วนการตรวจจับรถที่กระทำความผิดเกี่ยวกับควันดำนั้น จากสถิติในห้วงตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 63 รวมเป็นเวลา 5 วัน พบว่า มีผู้กระทำความผิดใช้รถควันดำเกือบ 2,000 คัน ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง มีการจับปรับความผิดดังกล่าวไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้ พบว่ามีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับรถควันดำในกรุงเทพฯ ประมาณ 120,000 คันต่อปี ส่วนใหญ่เป็นรถ 6 ล้อขึ้นไป คิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นรถเล็กลงมา

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาว หลายภาคส่วนจะต้องมีการหารือกัน ทั้งกรมการขนส่งทางบก กรมโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหามลพิษ รวมถึง ทางผู้ประกอบการควรมีความตระหนักถึงปัญหา ซึ่งที่ผ่านมา ทางตำรวจได้มีการตรวจวัดควันดำกับรถขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือขสมก. ทุกอู่ เพื่อลดปริมาณการเกิดควันดำ

นอกจากนี้ ทางผู้บังคับบัญชาได้มีความเป็นห่วงตำรวจจราจรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่กลางแจ้ง จึงได้กำชับให้ดูแลและป้องกันตัวเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 ด้วย