เลือกเล่นรายตัว

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ทรุดตัวลง -14.17 จุด (-0.89%) ปิดที่ 1,575 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.6 หมื่นล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านจากความกังวลการแพร่ระบาดเชื่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ทางจีนประกาศว่าติดต่อคนสู่คนได้ รวมถึงข่าวจีนจะลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวลง 30% ส่งผลให้มีแรงขายในกลุ่ม PETRO, TOURISM และ TRANS กดดันให้ดัชนีทรุดตัวลงแรง อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 631 ล้านบาท แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 210 ล้านบาท อีกทั้ง Net Short TFEX 28,621 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลาง-ลบคาด SET Index อ่อนตัวทดสอบ 1,565 - 1,570 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ ตามความกังวลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โดยล่าสุดพบผู้ป่วยในสหรัฐเป็นครั้งแรก 1 รายซึ่งหากยังไม่สามารถหาทางควบคุมได้อาจส่งผลกระทบเหมือนวิกฤตโรค SARS ในปี 2546 ที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 800 คนและเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในฮ่องกง นอกจากนี้ความกังวลพรบ.งบประมาณรายจ่ายปี 63 ของไทยอาจล่าช้าอออกไปอีก 2 เดือนเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความส.ส.เสียบบัตรโหวตลงคะแนนแทนกันจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของไทยและความเชื่อมั่นของนักลงทุน อีกทั้งกระแส Fund flow ต่างชาติที่ยังคงชะลอตัวและเป็น Net Short TFEX เพิ่มขึ้นจะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางดัชนีในช่วงนี้

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

• กลุ่ม Defensive และงบ 4Q19F คาดว่าจะออกมาดีและดีต่อเนื่องในปีนี้ GPSC, GULF, JMT, CPF, SAWAD, MTC, BTS, BEM, INTUCH, ADVANC
• กลุ่มเครื่องดื่ม OSP, CBG อานิสงส์ภัยแล้งที่รุนแรงและยาวนานจนถึงกลางปี

** ระวังแรงขายกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม จากการระบาดเชื่อไวรัสโคโรนาและค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสูงของไทย

** ระวังแรงขายกลุ่มรับเหมาและค้าปลีก หากพรบ.งบประมาณรายจ่ายปี 63 ของไทยล่าช้าออกไป

หุ้นแนะนำวันนี้

• INTUCH (ปิด 59.25 ซื้อ/เป้า 81) INTUCH เหมาะสำหรับหลบภัยในภาวะตลาดผันผวนเนื่องจากจ่ายปันผลสม่ำเสมอและให้ Dividend yield สูง ประมาณ 4.5% ต่อปี สูงกว่าเมื่อเทียบกับ ADVANC ที่ 3.5% ขณะที่ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าเงินลงทุน (NAV) ใน ADVANC และ THCOM โดยมี Discount จากมูลค่า NAV ถึง 28% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 20-25%
• LH (ปิด 9.9 ซื้อ/เป้า 11.5) วานนี้ราคาหุ้นปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนขาย sell on fact และผิดหวังมาตรการผ่อน LTV บ้านหลังที่ 2 น้อยกว่าที่คาด เรามองเป็นโอกาสเข้าซื้อเนื่องจาก LH เป็นหุ้นจ่ายปันผลสม่ำเสมอและให้ Dividend yield ค่อนข้างสูง โดยเราคาด DPS 2H19 ประมาณ 0.40 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield ประมาณ 4%

บทวิเคราะห์วันนี้

INTUCH (ปิด 59.25 ซื้อ/เป้า 81), ICT sector (Top pick: ADVANC, DTAC, INTUCH)

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (-) กลุ่มท่องเที่ยว - กระแสตื่นกลัวการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเพราะสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้: ล่าสุดนายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ยของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น 300 ราย ขณะเดียวกันมีรายงานถึงการแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆประมาณ 6 ประเทศ คือ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ไทย และ สหรัฐ โดยที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของจีนเปิดเผยว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ ประเด็นนี้จะทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อจึงมีความเป็นไปได้ที่การเดินทางท่องเที่ยวต่างๆน่าจะลดลงคล้ายกับช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคซาร์ในช่วงปี 2003 (3 เดือนแรกของการแพร่ระบาด) พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยลดลง 40-50%
• (-) กลุ่มรับเหมาฯ – ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 63 อาจเป็นโมฆะ หลังเกิดประเด็น ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ให้คนอื่นกดบัตรลงคะแนนแทน: ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ผ่านการลงมติของสภาผู้แทนราษฏรมาแล้วในวันที่ 11 ม.ค.2020 ที่ผ่านมาด้วยคะแนนเสียง 253 ต่อ 196 คะแนน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา อย่างไรก็ตามดูเหมือน ร่าง พ.ร.บ.ปี 63 อาจจะสะดุดลงหลังมีประเด็นตรวจพบว่าการลงมติของสภาผู้แทนในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค. ที่ผ่านมามีการเสียบบัตรลงมติแทนกัน หากอิงในเหตุการณ์ทางการเมืองไทยที่เคยเกิดขึ้นในอดีต มีความเสี่ยงสูงที่ประเด็นนี้จะถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากศาลฯตัดสินว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญอาจทำให้กฏหมายงบประมาณดังกล่าวเป็นโมฆะส่งผลลบต่อการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
• (+/-) วันนี้ติดตามกระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขส่งออกเดือน ธ.ค.คาดติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5: วันนี้กระทรวงพาณิชย์จะประกาศตัวเลขส่งออก/นำเข้าของไทยประจำเดือน ธ.ค. โดย Bloomberg Consensus คาดตัวเลขส่งออกจะยังติดลบประมาณ 1.25% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวติดลบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ที่ -7.39% ตัวเลขส่งออกที่ยังหดตัวยังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันการเติบโตของ GDP ใน 4Q19