กังวลเศรษฐกิจ-โคโรนาไวรัสแพร่เข้าสหรัฐกดดันราคาน้ำมันดิบร่วง

กังวลเศรษฐกิจ-โคโรนาไวรัสแพร่เข้าสหรัฐกดดันราคาน้ำมันดิบร่วง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคาร(21ม.ค.)ปรับตัวลงหลังไอเอ็มเอฟเตือนว่าเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน และเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ลามเข้าสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 58.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 61 เซนต์ ปิดที่ 64.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.3% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 2.9% ของปี 2562 แต่เตือนว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้านรวมถึงโอกาสที่ความตึงเครียดทางการค้าจะกลับมามาใหม่ แม้สหรัฐและจีนเพิ่งลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกร่วมกันไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ส่วนสถานการณ์ในลิเบีย นักลงทุนคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันที่หยุดชะงักลงในลิเบียจะได้รับการชดเชยจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลก

บริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ปอเรชั่น (เอ็นโอซี) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของรัฐบาลลิเบีย ประกาศภาวะสุดวิสัย ด้านการส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือ 5 แห่งภายในประเทศ หลังจากกองกำลังแห่งชาติลิเบียได้สั่งปิดท่าเรือดังกล่าว

ทั้งนี้ ภาวะสุดวิสัย เป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นอิสระจากข้อผูกพันทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ข้อพิพาทด้านแรงงาน การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ

แถลงการณ์ของเอ็นโอซี ระบุว่า "กองกำลังแห่งชาติลิเบียได้สั่งการให้หน่วยงานในเครือของบริษัทระงับการส่งออกน้ำมันจากท่าเรือเบรกา, ท่าเรือราส ลานุฟ, ท่าเรือฮาริกา, ท่าเรือซูอีตินา และท่าเรือซีดรา ซึ่งการปิดท่าเรือเหล่านี้ส่งผลให้ลิเบียสูญเสียการผลิตน้ำมันดิบในปริมาณ 800,000 บาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 55 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ลิเบีย ยังสั่งปิดบ่อน้ำมัน 2 แห่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ หลังจากที่กองกำลังที่ภักดีต่อนายคาลิฟา ฮาฟตาได้ปิดท่อส่งน้ำมันแห่งหนึ่ง