'ธปท.' ขีดเส้นแบงก์ส่งแผนสินเชื่อรายย่อย

'ธปท.' ขีดเส้นแบงก์ส่งแผนสินเชื่อรายย่อย

"ธปท." สั่งแบงก์ส่งแผนปล่อยสินเชื่อรายย่อย ตามแนวทางการปล่อยสินเชื่อรับผิดรับชอบ ปล่อยกู้โดยดูภาระหนี้ต่อรายได้ตามนิยามใหม่ ภายในไตรมาสแรกปีนี้ หวังแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ย้ำยังไม่ออกเกณฑ์ "ดีเอสอาร์" ขอประมวลผลจากข้อมูลที่แบงก์ส่งให้ก่อน

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้มีการเรียกทุกสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ(แบงก์รัฐ) มาหารือและรับทราบเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อธุรกิจรายย่อย ตามแนวทางการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) แล้วในช่วงที่ผ่านมา

ดังนั้น ในระยะข้างหน้า ธปท.จึงได้มีการให้ทุกแบงก์ส่งแผนการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ ภายใต้แนวทางที่ธปท.วางไว้ เพื่อดูว่าแต่ละแบงก์มีแนวทางอย่างไรในการปล่อยสินเชื่อให้เป็นไปตามแนวทางนี้ โดยกำหนดให้ทุกแบงก์ส่งแผนการปล่อยสินเชื่อมาให้ธปท.รับทราบภายในไตรมาส 1 ปี 2563

ในแผนการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบนี้ จะรวมไปถึงการทำแผนการปล่อยสินเชื่อ โดยคำนึงถึงการดูภาระหนี้ต่อรายได้(DSR)ของผู้กู้ด้วย ว่าแต่ละแบงก์มีแนวทางอย่างไร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ธปท.ได้ให้ทุกแบงก์ใช้นิยาม หรือมาตรฐานเดียวกันทั้งระบบ ในการปล่อยสินเชื่อโดยดูจากภาระหนี้ต่อรายได้  และกำหนดให้ส่งข้อมูลมาให้ธปท.พิจารณาเมื่อเดือนพ.ย. 2562 ที่ผ่านมา 

157966568810

ล่าสุด ธปท.อยู่ระหว่างการประเมินข้อมูลต่างๆ เพื่อดูว่าการปล่อยสินเชื่อบนเกณฑ์ DSR ของแบงก์ในช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างไร สูงหรือต่ำกว่ากว่าค่าเฉลี่ยของทั้งระบบ ข้อมูลดังกล่าวจะทำให้ธปท.เห็นความเสี่ยง หรือความเปราะบางในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินมากขึ้น

“ที่ผ่านมา ธปท.มีการติดตามข้อมูล และดูการปล่อยสินเชื่อบนเกณฑ์ DSR ของแบงก์อย่างใกล้ชิด เพราะเรามีความกังวลเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนที่พบว่าสูงขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเราได้ข้อมูล DSR จากแบงก์มาแล้ว  จะนำมาประเมิน  โดยธปท.ประเมินว่าการปล่อยสินเชื่อของแต่ละแบงก์ที่ผ่านมา มีความเสี่ยงหรือไม่ มีการปล่อยสินเชื่อบนดีเอชอาร์ที่เกินค่าเฉลี่ยของทั้งระบบหรือไม่ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาสักระยะ ก่อนนำข้อมูลไปดูเชิงนโยบายว่าจะดูแลอย่างไรต่อไป แต่เวลานี้ยังไม่มีการออกเกณฑ์อะไรออกมา ขอดูข้อมูลจากแบงก์ให้รอบด้านก่อน”

เขากล่าวอีกว่า การให้แบงก์คำนึงถึงการปล่อยสินเชื่อรายย่อยอย่างรับผิดรับชอบ และดูเรื่องภาระหนี้ของผู้กู้มากขึ้น ก็เพื่อให้แบงก์ตระหนักถึงความสามารถในการชำระหนี้ และความสามารถของลูกหนี้มากขึ้น เช่น ดูว่าลูกหนี้แต่ละรายมีเงินเหลือในการใช้ดำรงชีวิตหรือไม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่แบงก์ต้องคำนึงมากขึ้น นอกเหนือจากความเสี่ยงด้านเครดิตที่แบงก์ใช้พิจารณาอยู่แล้ว

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การที่ธปท.ให้แบงก์ทำแผนการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ และดูเรื่องภาระหนี้ผู้กู้มากขึ้น ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างการทำแผนดังกล่าวเพื่อส่งให้ธปท.  

อย่างไรก็ตาม การปล่อยสินเชื่อของแบงก์ที่ผ่านมา ได้มีการคำนึงและยึดหลักการปล่อยสินเชื่อตามแนวทางนี้อยู่แล้ว เพื่อให้ลูกค้ามีเงินเพียงพอในการดำรงชีพ และเพื่อลดความเสี่ยงจากการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ ดังนั้น เชื่อว่าภายใต้แนวทางนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ให้ลดลงในระยะข้างหน้า