ตร.กำชับทุกด่าน ตม.ป้องโรคระบาดจากจีน

ตร.กำชับทุกด่าน ตม.ป้องโรคระบาดจากจีน

"รองโฆษกตร." แจง "ผบ.ตร." กำชับทุกด่าน ตม. ร่วมด่านควบคุมโรค วาง 8 มาตรการป้องกันแพร่ระบาดเชื้อ SARS ย้ำเข้มงวดช่วงเทศกาลตรุษจีน

จากกรณีที่กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ การระบาดของโรคปอดอักเสบ โดยสงสัยเชื้อ SARS จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 3 มกราคม หลังสื่อหลายสำนักรายงานการพบผู้ป่วยจากเชื้อไวรัส ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับ SARS ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศจีน ในเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา จำนวน 27 ราย ซึ่งมีอาการรุนแรง 7 ราย 

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทยว่า ซึ่งยังมีความเสี่ยง ว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เล็งเห็นปัญหา จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ให้ดำเนินการติดตามปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) กำหนดมาตราการและแนวทางการปฏิบัติ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ ให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติดังนี้

1. เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบุคคลที่เดินทางมาจากมืองคู่ฮั่น หากตรวจพบให้เจ้าหน้าที่ ตม.ประสานกับแพทย์ที่ประจำ ด่าน ตม. หรือเจ้าพนักงานสาธารณสุข ประจำด่านควบคุมโรคระหว่างประทศ เพื่อดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขต่อไป

2. ให้เจ้าหน้าที่ประจำช่องตรวจอนุญาต สังเกตพฤติกรรมของผู้ที่มารอรับการตรวจอนุญาต

หากพบอาการต้องสงสัยที่อาจเข้าข่ายโรคปอดอักเสบ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเชียส ไอแห้ง วิ่งเวียนศีรษะ หรือหายใจลำบาก เป็นต้น ให้แนะนำไปทำการตรวจคัดกรองโรคฯ กับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง

3. ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบข้อมูลบัตร (ตม.6) ของผู้โดยสาร โดยเฉพาะขัอมูลที่พักอาศัยให้ครบถ้วน เพื่อประโยชนีในการติดตามตัวในภายหลั่ง กรณีพบว่ามีความเสี่ยงที่จะติดโรค

4.ให้เพิ่มความละเอียดรอบคอบ ในการตรวจอนุญาตบุคคลในกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาด

ของโรคปอดอักเสบ โดยให้ตรวจสอบแบบคำถาม (ต.8) ของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หากยังไม่ได้ผ่านการตรวจคัดกรองจากแพทย์ๆ ให้แนะนำผู้โดยสารให้ไปทำการตรวจคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง ก่อนเข้ารับการตรวจอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักร

5.ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำคนตรวจคนข้าเมือง ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด่นควบคุม

โรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานความร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินการตามมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว อย่างเต็มกำสังความสามารถและตามอำนาจหน้าที่

6.ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัส และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น เลือด หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ที่ต้องสงสัยว่า ป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัส หากมีความจำเป็นที่จะต้องสัมผัสกับบุคคลดังกล่าวให้สวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น สวมหน้ากากอนามัย และให้ล้างมือบ่อยๆ

7.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น เอาใจใส่ และตรวจตราสุขภาทของกำลังพลในสังกัดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ การแพร่ระบาด หากพบว่าเจ้าหน้าที่คนใดมีอาการไข้ขึ้นสูง หรือสงสัยว่าจะป่วยให้รีบดำเนินการส่งตัวให้แพทย์ตรวจรักษาต่อไป

8.ให้ผู้บังคับบัญชาและข้าราชการตำรวจในสังกัด ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคปอดอักเสบ และข่าวสารอื่นๆ อย่างต่อเนื่องจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือเพทย์ตรวจคนเข้าเมืองรวมทั้งให้รายงานความเคลื่อนไหวต่างๆ

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน วันที่ 23 -25 ม.ค. 2563 ที่จะมาถึงนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทาง เข้า-ออก ประเทศเป็นจำนวนมาก สตม. ได้บูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ คัดกรอง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศจีน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากเชื้อไวรัส

ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือสงสัยเกี่ยวกับโรคระบาดสามารถโทรสอบถามข้อมูล หรือแจ้งข้อมูลได้ที่หมายเลขสายด่วน 1422 ของ กรมควบคุมโรค หรือ สายด่วน สตม. 1178 ได้ตลอด 24 ชม.