Selective Buy

Selective Buy

นักลงทุนจะติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐฯคดียุบพรรคอนาคตใหม่ซึ่งจะมีผลต่อภาพการเมืองในประเทศ 

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ทรุดตัวลง -11.37 จุด (-0.71%) ปิดที่ 1,589 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท จากแรงขายหุ้นรายกลุ่มตามความกังวลงบ 4Q19 ที่คาดว่าจะชะลอตัวลง นำโดยกลุ่ม BANK หลัง SCB รายงานงบหดตัวลงมากทั้งสินเชื่อที่ชะลอตัวและ NPL เร่งตัวขึ้น ประกอบแรงขายกลุ่ม PETRO และกลุ่ม CONS ที่คาดการณ์ว่างบจะหดตัวลงเช่นกันซึ่งกดดันต่อทิศทางดัชนี อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 222 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 553 ล้านบาท อีกทั้ง Net Short TFEX 27,475 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นลบคาด SET Index อ่อนตัวทดสอบ 1,580 - 1,585 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ เนื่องจากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนและคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามการประกาศงบ 2019 ของกลุ่มธนาคารที่เหลือโดยเฉพาะตัวเลข NPL ว่าจะเร่งตัวขึ้นอย่างที่ตลาดกังวลหรือไม่ หลังวานนี้ SCB รายงานกำไร 4Q19 น่าผิดหวังพร้อมกับ NPL พุ่งขึ้น ประกอบกับนักลงทุนจะติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐฯคดียุบพรรคอนาคตใหม่ซึ่งจะมีผลต่อภาพการเมืองในประเทศ  นอกจากนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสูงของไทยจะเป็นลบต่อกลุ่มท่องเที่ยว/โรงแรม รวมถึงกระแส Fund flow ต่างชาติที่เป็น Net Sell ต่อเนื่อง 8 วันราว 9 พันลบ.ที่ยังคงกดดันต่อทิศทางดัชนีในช่วงนี้

** วันนี้ (21 ม.ค.) 11.30 น. ติดตามศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ปมล้มล้างการปกครอง

** สัปดาห์นี้ ติดตามการประกาศงบ 2019 ของกลุ่มธนาคาร

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่ม Defensive และงบ 4Q19F คาดว่าจะออกมาดีและดีต่อเนื่องในปีนี้ GPSC, GULF, JMT, CPF, SAWAD, MTC, BTS, BEM, INTUCH, ADVANC และ DTAC
  • กลุ่มเครื่องดื่ม OSP, CBG อานิสงส์ภัยแล้งที่รุนแรงและยาวนานจนถึงกลางปี
  • กลุ่มอสังหาฯ AP, SPALI อานิสงส์ ธปท.ปลดล็อกมาตรการ LTV

หุ้นแนะนำวันนี้

  • AP (ปิด 7.55 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 8.7) ได้ Sentiment บวกจากข่าวแบงก์ชาติเพิ่มวงเงินกู้ให้กับบ้านหลังแรกเป็น 110% และผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ให้กับบ้านหลังที่ 2 ส่งผลบวกโดยตรงต่อ AP เป็นเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับกลางถึงล่าง นอกจากนี้ AP ยังจ่ายปันผลสม่ำเสมอประมาณ 0.33 บาทให้ Dividend yield ประมาณ 4.4%
  • CPF (ปิด 30.5 ซื้อ/เป้า 33.5) คาดกำไรสุทธิ 4Q19 ประมาณ 3.4 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%qoq และ 105%yoy จากราคาหมูในเวียดนามเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 65,000 ดองต่อ ก.ก. เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากระดับ 33,000 ดองต่อ ก.ก.ใน 3Q19 และคาดกำไรสุทธิโตต่อเนื่องอีกใน 1Q2020 จากราคาหมูในประเทศและราคาหมูเวียดนามเร่งตัวขึ้นอีกในปัจจุบัน

บทวิเคราะห์วันนี้

SPALI (ปิด 18 ถือ/เป้าใหม่ 19 เดิม 19.6), IRPC (ปิด 3.28 ถือ/เป้าใหม่ 3.4 เดิม 3.5), Thailand Strategy (ลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงช่วงประกาศปันผล)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) IMF ลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2019-2021 เป็น 2.9%, 3.3% และ 3.4% จากเดิม 3%, 3.4% และ 3.6% ตามลำดับ: หลักๆมาจากการปรับลดคาดการณ์ GDP ของอินเดียซึ่งได้รับผลกระทบจากการหดตัวของสภาพคล่อง โดย IMF ลดคาดการณ์ GDP ของอินเดียปีนี้ลงเป็น 5.8% จาก 7% ส่วนประเทศพัฒนาแล้ว IMF ลดคาดการณ์ GPD ของสหรัฐในปีนี้จาก 2.1% เป็น 2% แต่เพิ่มคาดการณ์ GDP ของจีนขึ้นเป็น 6% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 5.8% ส่งผลให้ภาพรวม World GDP ปีนี้น่าจะขยายตัว 3.3% ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ขยายตัว 2.9%
  • (+) กลุ่มอสังหาฯ - แบงก์ชาติผ่อนเกณฑ์ LTV มองเป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ Top pick AP, SPALI, PSH: วานนี้ ธปท.ประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV ให้กับภาคอสังหาฯ คือ 1) เพิ่มเพดาน LTV ให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทจากเดิม 90-95% เป็น 100% พร้อมให้กู้เพิ่มได้อีก 10% เพื่อการตกแต่ง ซ่อมแซม และต่อเติม ส่วนผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกแต่เกิน 10 ล้านบาทให้ลดวงเงินดาวน์เป็น 10% จากเดิม 20% และ 2) ผ่อนคลายเงื่อนไขให้กับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 โดยคงเพดานเงินดาวน์ไว้ที่ 10% แต่ลดจำนวนปีจากการผ่อนสัญญาแรกจาก 3 ปี เป็น 2 ปี (เดิมผ่อนสัญญาแรกน้อยกว่า 3 ปีต้องวางดาวน์ 20%) คาดทั้ง 2 มาตรการจะช่วยลดการชะลอตัวของดีมานด์ในภาคอสังหาฯ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่เช่นปัจจุบัน (GDP ชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงสู่ระดับต่ำ, หนี้ครัวเรือนสูง) คาดว่าทั้ง 2 มาตรการจะยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ยอดขายของผู้ประกอบการกับมาฟื้นตัว เราจึงมองผลกระทบของมาตรการนี้เป็นเพียง Slightly positive กับหุ้นอสังหาฯ (มีมาตรการดีกว่าไม่มี) Top pick ของกลุ่ม AP, SPALI  และ PSH
  • (+/-) การเมืองในประเทศวันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดียุบพรรคอนาคตใหม่: วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยต่อการยุบพรรคอนาคตใหม่ หลังจากมีผู้ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด 2 คำร้อง คือ 1 )นายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องเพื่อให้ยุบพรรค โดยกล่าวหาว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ 2) กกต.ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคเนื่องจากนายธนาธร ให้เกินกู้ยืมกับพรรคอนาคตใหม่เป็นเงิน 190  ล้านบาท ผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ดังนั้นในวันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ต้องติดตามเพราะอาจเป็นตัวจุดชนวนให้อุณหภูมิทางการเมืองในประเทศร้อนแรงขึ้นในช่วงเวลาถัดไป และจะมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้