ชี้ภัยแล้งต้องหมดจากประเทศ แนะรัฐวางแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว

ชี้ภัยแล้งต้องหมดจากประเทศ แนะรัฐวางแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว

"นพ.ระวี" ชี้ต้องวางโรดแมปจัดการน้ำให้จบในรัฐบาลนี้ ลั่นภัยแล้งต้องหมดไปจากประเทศ แนะรัฐบาลวางแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาว ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 63 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงปัญหาภัยแล้งในปีนี้ว่า ปีนี้ภัยแล้งรุนแรงมากที่สุดในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ปี 2522 เนื่องจากฝนตกน้อยกว่าค่าประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งความต้องการใช้น้ำของประชาชนมีมากขึ้น ทางภาครัฐต้องหาทางแก้ปัญหาโดยเร็ว โดยปกติภัยแล้งในไทยจะมีปัญหาแค่ในส่วนของภาคการเกษตรเท่านั้นที่มีน้ำไม่พอในการทำการเกษตร แต่ปีนี้รุนแรงถึงน้ำที่ต้องใช้อุปโภคบริโภคไม่เพียงพอ น้ำทะเลหนุนสูงทำให้น้ำประปากร่อยซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการ

“หน่วยงานด้านการจัดการน้ำในประเทศไทยมีหลากหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, กรมชลประธาน, กรมอุตุนิยมวิทยา, การประปานครหลวง และอีกมากมายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการ แต่ทำไมปัญหานี้ เป็นปัญหาที่เรื้อรังกันมานาน ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องปรึกษาหารือกันเพื่อหาทางออกและวางระบบเพื่อไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ไม่งั้นก็จะวนเวียนที่ช่วงหน้าร้อนก็เจอกับภัยแล้ง พอถึงหน้าฝนก็เจอกับน้ำท่วมไปแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น ในเมื่อทางรัฐบาลได้ตั้งหน่วยงานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติมารับมือกับวิกฤตน้ำในครั้งนี้โดยเฉพาะดังนั้นปัญหาควรจบให้ได้ในรัฐบาลชุดนี้ อย่าเป็นแค่การแก้ปัญหาเป็นครั้งๆ ไป” นพ.ระวี กล่าว

ทั้งนี้ นพ.ระวี กล่าวอีกว่า การที่ต้องมาเสียงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนกับเรื่องปัญหาน้ำนี้ทุกปีเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งเป็นปัญหาที่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ถ้าแก้ปัญหานี้ได้จะประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้อีกมาก ไม่เพียงแต่การแก้ปัญหาไม่ให้เกิดน้ำประปากร่อยเท่านั้น ต้องแก้ไปถึงภาคการเกษตร ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทางภาครัฐต้องมีคำตอบให้กับประชาชนว่าจะมีการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างไร รวมถึงแผนบริหารการจัดการน้ำในอนาคตว่าจะเป็นรูปเป็นร่างเมื่อใด ปัญหานี้จะได้หมดไปจากประเทศเสียที หากยังแก้ไม่ได้อย่างน้อยต้องมีแผนปฏิบัติที่จะเกิดขึ้นได้จริงและมีการติดตามการดำเนินงานอย่างชัดเจน