มธ. จับมือพันธมิตร ปั้น ‘รังสิต-นวนคร’ สู่ SMART CITY

มธ. จับมือพันธมิตร ปั้น ‘รังสิต-นวนคร’ สู่ SMART CITY

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับบริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน),บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน),และบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที 8 มกราคม

เพื่อร่วมกันศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่มธ.ศูนย์รังสิต เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ตลอดจนพื้นที่ข้างเคียง เพื่อส่งเสริมให้เป็นเมืองอัจฉริยะเต็มรูปแบบ หรือ “Thammasat – Nava Nakorn Smart City” โดยคาดว่าต้นแบบจะแล้วเสร็จภายในกลางปี 2563

นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นวนครและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปรียบเสมือนเพื่อนบ้านที่อยู่ร่วมกันมานาน ซึ่งโครงการ “Thammasat – Nava Nakorn Smart City” ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ในการร่วมกันพัฒนาพื้นที่ในระดับชุมชนเมืองภายใต้เงื่อนไขและแผนพัฒนาที่สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะประเทศไทย (Thailand Smart City) ของภาครัฐ

โดยนวนครและทั้งพันธมิตร ได้แก่ ราช กรุ๊ป และ เอแอลที เทเลคอม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนข้อมูล การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ตลอดจนทุนจำนวน 2.26 ล้านบาท ในการศึกษาโครงการดังกล่าว

“ในฐานะที่ผมเป็นสถาปนิกคนหนึ่งและมีความฝันในเรื่องนี้ ผมพูดได้ว่า เราไม่มีพื้นที่ใดที่มีองค์ประกอบเหมาะสมเท่านี้อีกแล้ว เรามีทั้งชุมชน สถาบันการศึกษา หน่วยงานนวัตกรรม ตลอดจนภาคการผลิต เราสามารถสร้างศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา (R&D) และอื่นๆ อีกมากมาย ฉะนั้นเราจะนำเทคโนโลยีและศักยภาพทั้งหมดที่เรามี มาใช้ในการพัฒนาเพื่อสร้างเมืองต้นแบบให้กับประเทศของเรา” นายนิพิฐ กล่าว

ผศ. อาสาฬห์ สุวรรณฤทธิ์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มธ.กล่าวว่า การศึกษาโครงการดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งของวิชาหลัก จาก 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาสถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม การผังเมือง การออกแบบและพัฒนาชุมชนเมือง และการจัดการออกแบบ ธุรกิจ และเทคโนโลยี เพื่อให้ได้มุมมองการพัฒนาและตัวอย่างผลลัพธ์ในเชิงการออกแบบวางผังและนวัตกรรมที่นำไปสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะในหลากหลายมิติ

“โครงการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสิ้นในกลางปี 63 และมุ่งหวังที่จะเป็นอีกตัวอย่างในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญไม่เพียงสนับสนุนนโยบายภาครัฐ แต่ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้แก่ให้กับสังคมในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนและภูมิทัศน์เมืองอีกด้วย” ผศ.อาสาฬห์ ระบุ

ภายในงานเดียวกันนี้ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มธ.ยังได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตนา (LOI) ร่วมกับ Graduate School of Design ของ Harvard University เพื่อร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ และจัด Option Studio สำหรับนักศึกษานานาชาติระดับปริญญาโทจากสาขาสถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และการออกแบบเมือง ซึ่งจะศึกษาและเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินกิจกรรมในโครงการนี้ด้วย

รศ. เกศินี วิทูรชาติ อธิการบดี มธ.เปิดเผยว่า มธ.มีเป้าหมายการพัฒนาสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชนและความยั่งยืน โดยที่ผ่านมาได้ร่วมกับภาคเอกชนและเครือข่ายมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย ตลอดจนร่วมกันสร้างองค์ความรู้ที่บูรณาการสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน

ดังนั้นการลงนามใน MOU ฉบับนี้ จึงสอดคล้องกับเป้าหมายของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างยิ่ง

“เราตั้งใจที่จะสร้างเมืองอัจฉริยะให้เกิดขึ้นจริง เป็นต้นแบบของประเทศไทย ซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคการเมืองด้วย ฉะนั้น หลังจากนี้ธรรมศาสตร์จะประสานความร่วมมือไปยังรัฐบาล เชิญรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องและเห็นความสำคัญโครงการนี้มาพูดคุยกัน เพื่อประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง” รศ. เกศินี กล่าว