รองโฆษก พปชร. ขอบคุณอนาคตใหม่ รณรงค์ป้องกันฝุ่น PM2.5 ชี้ทำการเมืองสร้างสรรค์

รองโฆษก พปชร. ขอบคุณอนาคตใหม่ รณรงค์ป้องกันฝุ่น PM2.5 ชี้ทำการเมืองสร้างสรรค์

"ทิพานัน" ขอบคุณอนาคตใหม่ รณรงค์ป้องกันฝุ่น PM2.5 สอดรับนโยบายรัฐ ชี้ทำการเมืองสร้างสรรค์ดีกว่าปลุกเร้า วิ่งไล่ลุง พาประชาชนเสี่ยงสูดฝุ่นพิษเข้าปอด เสี่ยงผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 63 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่กรุงเทพฯ รณรงค์แจกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้กับประชาชน ว่า ต้องขอบคุณพรรคอนาคตใหม่ ที่หันมาช่วยรัฐบาลรณรงค์ป้องกันปัญหาฝุ่นพิษ ถือเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และเป็นการทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและการทำงานของพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้จัดตั้งเปิดศูนย์ประสานงานด้านแก้ไขปัญหาและหาแนวทางป้องกันฝุ่นพิษขึ้น โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชนและนักวิชาการ ซึ่งทางพรรคจะเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นที่พรรคอนาคตใหม่รณรงค์นั้น ต้องขอบคุณที่อยู่ภายใต้แนวทางในการแก้ไขปัญหาฝุ่นและมาตรการที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ โดยใช้หลักการป้องกันโดยมุ่งการลดมลพิษจากแหล่งกำเนิด เช่น จำกัดควบคุมรถยนต์ในการจราจร ทั้งนี้ เพราะสาเหตุของควันมาจากการใช้รถถึงร้อยละ 72.5 สำหรับแหล่งกำเนิดควันอื่นๆ ในเขตต่างจังหวัดก็ได้มีมาตรการในการคุมเข้มการเผาในที่โล่งแจ้งทั้ง นอกจากนี้ยังเร่งควบคุมการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดฝุ่นและการปล่อยควันของภาคอุตสาหกรรมด้วย และสำหรับมาตรการบรรเทาเยียวยานั้น รัฐบาล และ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐพร้อมให้ข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น รณรงค์และส่งเสริมให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น พร้อมกับรณรงค์ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการปรับพฤติกรรมเพื่อลดการเกิดฝุ่น

"การจัดกิจกรรมในที่สาธารณะ ในช่วงนี้ โดยเฉพาะการปลุกระดมให้มวลชนออกมาแสดงพลังจำเป็นต้องตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมารอบด้านทั้งต่อประเทศชาติและสุขภาพของผู้มาเข้าร่วมกิจกรรมยกตัวอย่าง กิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 นั้น นอกจากจะสร้างบรรยากาศความตึงเครียดในสายตาของประชาคมโลกแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่ออกมาวิ่งเอง เสี่ยงที่จะรับฝุ่นพิษเข้าไปในร่างกาย ผู้จัดกิจกรรมจึงควรคำนึงถึงสุขภาพอนามัยของผู้เข้าร่วมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน" น.ส.ทิพานัน กล่าว