คพ. แจง สถานการณ์ภาพรวมของฝุ่นละอองวันนี้อาจยังสะสมอยู่ "ระดับหนึ่ง"

คพ. แจง สถานการณ์ภาพรวมของฝุ่นละอองวันนี้อาจยังสะสมอยู่ "ระดับหนึ่ง"

สธ. แจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยงเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สถานการณ์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงเช้า มีการสะสมตัวของฝุ่นละอองต่อเนื่อง จากภาวะสภาพอากาศปิดและลมสงบตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยภาพรวม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่จากเมื่อวาน โดยพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) ในช่วงเช้า พบถึง 49 พื้นที่

ภาวะลมสงบเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางคืนวานนี้ ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าในหลายพื้นที่ของ กทม.และปริมณฑล ทำให้การกระจายตัวของฝุ่นละอองยังคงอยู่ในระดับต่ำ, นายประลองกล่าว

นายประลองกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพความกดอากาศในพื้นที่ประเทศไทย ทำให้คืนวานนี้เกิดภาวะฝาชีครอบ (inversion) ในระดับต่ำกว่า 1 กม. (ปกติ ควรสูงกว่า 3.0 กม.) ทำให้ฝุ่นไม่สามารถลอยขึ้นไปได้ และยังคงมีการสะสมตัวของฝุ่นละอองตั้งแต่เมื่อวานต่อเนื่องมาจนถึงเช้าของวันนี้จนสูงขึ้น

การจราจรเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของฝุ่นสะสม, นายประลองกล่าว โดยสถานการณ์การจราจรเมื่อวันอาทิตย์ในช่วงกลางวันค่อนข้างจะหนาแน่นต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศ ทำให้มีการสะสมตัวของฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นดังกล่าว

และในวันนี้เป็นวันต้นสัปดาห์ของการทำงาน การจราจรในภาพรวมของเช้านี้มีการจราจรที่หนาแน่นและติดขัดในหลายเส้นทาง ซึ่งสอดคล้องข้อมูลดัชนีรถติดจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย และ บก.จร.

สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้ จึงอาจจะยังคงมีการสะสมของฝุ่นละอองอยู่ “ระดับหนึ่ง” นายประลองกล่าว แม้ในช่วงบ่าย การฟุ้งกระจายตัวของฝุ่นละอองจะเริ่มดีขึ้นเนื่องจากหลายพื้นที่ ในกทม.และปริมณฑลจะได้รับอิทธิพลลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็วสูงสุด 10-20 กม/ชม. และอาจมีโอกาสที่จะเกิดฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่

เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละอองที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น คพ.ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการภารกิจตามแผนฯอย่างเร่งด่วน

อาทิ

-จัดชุดตรวจการ 16 ชุด ตรวจทุกวัน วันที่ 19 มกราคม 2563 ลงพื้นที่ตั้งจุดตรวจวัดควันดำรถบรรทุก และรถโดยสาร รวมทั้งสิ้น 304 คัน

-เข้มงวดการห้ามรถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพมหานครตามช่วงเวลาที่กำหนด

-เข้มงวดตรวจจับควันดำรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสาร

-อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เร่งการระบายรถโดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและกวดขันจับกุมรถจอดขวางการจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด

-รณรงค์ให้ผู้ใช้ทางหันมาใช้ M-Pass และ Easy Pass เพิ่มความคล่องตัวในการจราจร

-ควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศอย่างเข้มงวด โดย กรอ.ประสาน โรงงานอุตสาหกรรมลดกำลังการผลิตในช่วงสถานการณ์ฝุ่นละอองสูง

ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในพื้นที่ กทม และปริมณฑล

-จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เฝ้าระวังการเผาไหม้ข้างทาง พร้อมปฏิบัติการ 24 ชม.

-ควบคุมและลดฝุ่นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างประเภทอื่นๆ พร้อมทั้งเร่งคืนผิวการจราจรให้แก่ประชาชนเพื่อลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในช่วงกลางวัน

-แจ้งเตือนสถานการณ์และแนะนำการปฏิบัติตนของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์

จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สูงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ใน กลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง

หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน สธ. แนะนำว่า ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นไปตามหลักการป้องกันไว้ก่อน