Sideway up
ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้น คาดได้แรงหนุนจากตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น หลังจากสหรัฐ-จีนเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ
รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,600.48 จุด (+4.61 จุด) Volume 6.1 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,490.35 ลบ. TFEX Net +10,084 สัญญา
ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกเล็กน้อย 2 เซนต์ +0.03% ปิดที่ 58.54 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลความต้องการพลังงาน เช้านี้ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 1.1% จากข่าวปิดท่าเรือลำเลียงน้ำมันหลายแห่งในลิเบีย
+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 50.46 จุด +0.17% จากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน รวมถึงผลประกอบการที่สดใสของบจ.ในสหรัฐ ก่อนตลาดหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
+ IMF เผยข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐจะช่วยลดปัจจัยความไม่แน่นอนทั่วโลก
+เวิลด์แบงก์ คาดเศรษฐกิจไทยปี 63 โต 2.7% จากปี 62 ที่ขยายตัว 2.5% โดยเติบโตจากบริโภคเอกชน-โครงการลงทุนภาครัฐหนุน
+ก.คลังเตรียมชงครม.ดันแพคเกจ
- สนง.สถิติจีนเผย GDP Q4/62 ขยายตัว 6% ทรงตัวจากไตรมาส 3 แต่ยังต่ำกว่าระดับการขยายตัวในไตรมาส 2 ที่ 6.2% และในไตรมาสแรกที่ระดับ 6.4% โดย GDP ตลอดปี 62 ขยายตัว 6.1%
-การเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนอีกจากฝ่ายค้านเจรียมยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่
-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 4,600.90 ลบ. ค่าเงินบาท 30.390 บาท/US
*จับตาจีนเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนธ.ค. ขณะที่ตลาดสหรัฐหยุดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน ประกอบกับได้อานิงสงส์จากราคาน้ำมันปิดที่ปรับตัวขึ้น หลังกองกำลังแห่งชาติลิเบีย สั่งปิดท่าเรือลำเลียงน้ำมันคาดคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,610 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- Defensive (BEM PLANB)
- ผลสำรวจหุ้นเด่นโดยสมาคมนักวิเคราะห์ (AOT BBL CPF PTT PTTEP)
- หุ้นได้ประโยชน์ขยายเวลายกเว้นค่าธรรม VOA (ERW CENTEL AOT)
- หุ้นอสังหาฯ downside risk จำกัด (PSH SC SENA ANAN LPN CGD)
หุ้นรายงานพิเศษ
CRC IPO Roadshow ผู้ถือหุ้น ROBINS ควรตอบรับการแลกหุ้นเป็น CRC เนื่องจากราคาแลกหุ้นสูงกว่ามูลค่ายุติธรรมที่ FA ประเมินได้ โดยอัตราแลกหุ้น ROBINS ต่อ CRC อยู่ที่ 1.55-1.66 หุ้น
ประเด็นน่าสนใจ
-CRC มี Green shoe option 169.1 ล้านหุ้นโดยมีช่วงเวลา 30 วันหลังจากเข้าจดทะเบียน (ถึงวันที่ 21 มี.ค. 63)
-เข้าจดทะเทียนใน SET50 ภายใน 3 วันทำการ (ภายในวันที่ 26 ก.พ. 63) เนื่องจากมี Market capitalization ติด 1 ใน 15 อันดับแรก (คาดว่าหุ้นที่มีโอกาสออกจาก SET 50 BPP WHA และ TCAP)
-ราคา IPO ของ CRC ในช่วง 40-43 บาทต่อหุ้นคิดเป็น Trailing PE Ratio ที่ 35-38 เท่า และ Forward PE Ratio ที่ 25-27 เท่า (อ้างอิงจากการตอบคำถามของผู้บริหารในงาน IPO Roadshow)
หมายเหตุ
5 ก.พ. 63 กำหนดราคา CRC
19 ก.พ. 63 ROBINS ซื้อขายวันสุดท้าย
20 ก.พ. 63 CRC เข้าซื้อขายเป็นวันแรก
ส่องหุ้น
BAM แนวรับ 24.50 , 24.00 บาท แนวต้าน 25.50-25.75 บาท
PORT แนวรับ 2.46-2.44 บาท แนวต้าน 2.60 , 2.74 บาท
AU แนวรับ 11.50-11.20 บาท แนวต้าน 12.00-12.20 , 12.80 บาท
หุ้นมีข่าว
· (-) SCB (Bloomberg Conensus 137.05) กำไรสุทธิ 4Q62 เท่ากับ 5,506 ลบ. ต่ำกว่า consensus คาดเกือบครึ่ง กำไรลดลง 63%qoq เนื่องจาก 3Q62 มีรายการพิเศษจากการขาย SCBLIFE ลดลง 22%yoy เนื่องจากรายได้ดบ.สุทธิลดลงจากลดดบ.เงินกู้ คชจ.ดำเนินงาน +15% และสำรองหนี้สูญ +8% ปี 62 มีกำไรปกติ 40,436 ลบ. ทรงตัว yoy ธนาคารประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นกรณีพิเศษหุ้นละ 0.75 บาท XD 30 ม.ค. วันจ่าย 14 ก.พ. และเปลี่ยนแปลงนโยบายจ่ายเงินปันผลจากเดิม 30-50% เป็นไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
· (+) GULF (Bloomberg Consensus 163.81 บาท) ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า “บูรพา พาวเวอร์โฮลดิ้ง” ขนาด 540 เมกะวัตต์ จาก NPS 35% มูลค่า 120 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างปี 67 เตรียม COD ภายในปี 70 โชว์สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ กับ PTT เป็นระยะเวลา 25 ปี หลังจากต้น ม.ค. ซื้อหุ้น “หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้” 49% (ที่มา ข่าวหุ้น)
· (+) THCOM (Bloomberg Consensus 4.77 บาท) แจ้งโอนย้ายลูกค้าจากดาวเทียมไทยคม 5 ไปยังดาวเทียมต่างชาติ ตามที่กสทช.อนุญาต เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการแก่ลูกค้า ยันลูกค้าดาวเทียมไทยคม 6 และ 8 ไม่ได้รับผลกระทบ (ที่มา ข่าวหุ้น)
· (+) EKH (Bloomberg Consensus 8.57 บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 1 แจ่ม โชว์เดือนม.ค.ผู้ป่วยนอกขยายตัวสูง ล่าสุดทุ่มงบ 300 ล้านบาท เปิดตัวศูนย์กุมารเวช ที่ จ.สมุทรสาคร ขนาด 60 เตียง มั่นใจปี 63 รายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าสร้างโครงการรับดูแลผู้สูงวัย มูลค่า 70 ล้านบาท หวังดันเป็น รพ.เฉพาะทางในอนาคต (ที่มา ข่าวหุ้น)
· (+) RPH (Bloomberg Consensus 8.60 บาท) วางเป้ารายได้ปี 2563 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน หลังโรงพยาบาลแห่งใหม่การตอบรับดี ช่วงไฮซีซันอัตราใช้เตียงพุ่ง 170% เตรียมเร่งขอนุญาตขยายพื้นที่เตียงเป็น 200 ยูนิตภายในไตรมาส 1/2563 นี้ พร้อมจ่อปรับขึ้นค่ารักษา 3-5% ในปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
· (+) FORTH (Bloomberg Consensus - บาท) กิจการร่วมค้าฟอร์ทและยิบอินซอย เซ็นคว้างาน ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ของ กฟน. มูลค่า 1,149 ล้านบาท เดินหน้าติดตั้ง Smart Meter 33,265 ชุด ช่วยบริหารพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสอดรับแผนพัฒนา สมาร์ทซิตี้รัฐบาล ด้าน ผู้ว่า กฟน. ชี้เป็นโครงการนำร่องก่อนขยายการติดตั้งเพิ่มในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)
· (+) CAZ (Bloomberg Consensus - บาท) ผนึกพันธมิตรรับงานใหญ่ 1 หมื่นล้านบาท ด้านผู้บริหาร "นิตา ตรีวีรานุวัฒน์" ส่งสัญญาณธุรกิจปีนี้โตเด่น ใส่เกียร์ประมูลงานครึ่งปีแรก 5 พันล้านบาท คาดคว้าได้ราว 50-60% ตั้งเป้าปั๊มรายได้โต 30% ต่อจากปีก่อน วางกลยุทธ์รุกรับงานเครือ ปตท. เป็นหลัก (ที่มา ทันหุ้น)
· (+/-) KKP (Bloomberg Consensus 74.91) รายงานกำไรสุทธิปี 62 เท่ากับ 5,989 ล้านบาท ลดลง 0.9% โดยมีกำไรเบ็ดเสร็จ 5,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% จากกำไรเบ็ดเสร็จธุรกิจตลาดทุนซึ่งรวมมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขายจำนวน 863 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ +9.4% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ +0.5% คชจ.ดำเนินงาน +7.6% สำรองหนี้สูญ +34.6%