'พ่อแม่คาดหวังสูง' ต้นเหตุนักเรียนเวียดนามเครียด

'พ่อแม่คาดหวังสูง' ต้นเหตุนักเรียนเวียดนามเครียด

วันหยุดตรุษญวนที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นเทศกาลใหญ่และยาวนานที่สุดของปี โรงเรียนทั่วประเทศปิดภาคเรียนที่ 1 และจัดประชุมผู้ปกครองก่อนหยุดยาวซึ่งงานนี้ความเครียดของนักเรียนหลายคนได้ปรากฏขึ้น

เว็บไซต์เวียดนามนิวส์รายงานว่า ระหว่างประชุมผู้ปกครองครูมักประกาศผลการสอบไปด้วย และเผยแผนของโรงเรียนในเทอมที่เหลือ สำหรับเด็กที่มีผลการเรียนดีทุกอย่างย่อมเป็นไปอย่างราบรื่น แต่สำหรับเด็กที่เรียนจะตกแหล่มิตกแหล่ การประชุมผู้ปกครองถือเป็นฝันร้ายของชีวิต

เหวียน ถั่น จึง นักเรียนมัธยมในกรุงฮานอย กล่าวว่า พ่อแม่มักคาดหวังให้เขาเรียนให้ดีขึ้น ประชุมเสร็จเขาถูกดุเสมอ

“ผมเริ่มเครียดตั้งแต่พ่อออกจากบ้านไปประชุมผู้ปกครองเลยครับ จนกระทั่งพ่อกลับมานั่นล่ะ ถึงจะหาย” จึงเผยความรู้สึกที่หลายคนก็เป็นแบบเดียวกัน บางคนแย่กว่าด้วยซ้ำ

เมื่อเร็วๆ นี้ โรงพยาบาลจิตเวชไหม่ฮวงสำรวจนักเรียนประถมและมัธยมต้นกว่า 1,200 คนในกรุงฮานอย พบว่า เกือบ 19.4% มีปัญหาทางจิต หลายครั้งเป็นเพราะแรงกดดันให้เรียนหนัก

ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลกล่าวว่า พ่อแม่คาดหวังกับลูกสูงมาก

จั่น ฮอง ฮันห์ อาจารย์คณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ฮานอย กล่าวว่า วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาคือพ่อแม่ต้องรับฟังลูก หาปัญหาของลูกให้เจอ แล้วร่วมมือกับลูกช่วยกันแก้ไข

ไม่นานมานี้ โรงเรียนประถมบันไหม่ เขตฮาดงในกรุงฮานอยเปลี่ยนวิธีการประชุมครู-ผู้ปกครองเสียใหม่ สร้างความประทับใจให้พ่อแม่ไปตามๆ กัน กล่าวคือแทนที่จะมีแค่ครูกับผู้ปกครองประชุมกันเหมือนก่อน ยังอนุญาตให้เด็กร่วมประชุมและมีส่วนร่วมด้วยอย่างมาก

นักเรียนเกือบ 19.4% มีปัญหาทางจิต เพราะแรงกดดันให้เรียนหนัก

การประชุมแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ให้ปรึกษาเรื่องผลการเรียนและเป้าหมายกับผู้ปกครอง รวมถึงวิธีการเรียนในเทอมที่ผ่านมา และการจะเรียนให้ดีขึ้นในเทอมหน้า ครูแวะมาเยี่ยมทุกกลุ่ม รับฟังเด็กและให้ข้อเสนอแนะแก่พ่อแม่และนักเรียนถึงอุปสรรคที่พวกเขาเจอ

หลังจากนั้นนักเรียนแสดงละครสั้นบอกให้ทราบว่า พวกเขาทำอะไรสำเร็จแล้วบ้าง อะไรที่ยังไม่แล้วเสร็จ และตั้งความหวังไว้อย่างไรในเทอมหน้า

เหวียน ทิ ฮวง คุณแม่ที่มีลูกเรียนเกรด 4 กล่าวว่าทั้งเด็กและผู้ปกครองต่างชื่นชอบการประชุม

“เด็กๆ มีความสุขมากเมื่อได้พูดเรื่องการเรียนของตน ส่วนผู้ปกครองก็มีความสุขที่ได้ฟังและเห็นพัฒนาการของลูกๆ”

คุณแม่รายนี้เล่าด้วยว่า ตอนเป็นเด็กเธอกลัวมากเมื่อใกล้จะถึงวันประชุมผู้ปกครอง กลัวว่าพ่อแม่จะไม่พอใจผลสอบ แต่ตอนนี้เธอประหลาดใจมากที่ลูกชายตั้งตารอการประชุม

ผู้ปกครองหลายคนประทับใจที่เห็นลูกเชื่อมั่นตอนคุยกับผู้ใหญ่ นำเสนอความเห็น และแสดงละคร หลังประชุมครูมอบดอกไม้กระดาษให้ผู้ปกครองเขียนความรู้สึกเกี่ยวกับการประชุม ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็เหมือนกับฮวงที่รู้สึกทึ่ง

เหวียน ทิ ถั่นห์ หน่วง ผู้ช่วยครูใหญ่ กล่าวว่า การที่โรงเรียนเปลี่ยนรูปแบบการปรชุมก็เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวรับฟังเด็กๆ และร่วมมือกับครูช่วยให้เด็กเรียนดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ดีกับผู้ปกครองเท่านั้นแต่ดีกับเด็กเองด้วย

“นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะในการจัดการ สื่อสาร และมั่นใจมากขึ้น”

157943821372

ทั้งนี้ ทุกคนทราบดีว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมาก เกี่ยวข้องกับอนาคตของทุกครอบครัวและอนาคตของสังคม การใช้เวลากับลูกเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการให้การศึกษาเด็ก แทนที่จะเพิ่มแรงกดดันลงไปที่นักเรียน ผู้ปกครองควรนั่งลงหารือกับลูกๆ แล้วกำหนดเป้าหมายร่วมกัน เข้าใจจุดอ่อนจุดแข็งของเด็กเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงผลการเรียน และสร้างหลักประกันว่าทั้งนักเรียนและครอบครัวล้วนมีความสุข