'จุรินทร์' ปิดจ๊อบอินเดีย 2 วันทำยอดขายเกือบ 3 พันล้านบาท
“จุรินทร์“ นำทีมนักธุรกิจ ลุย 2 เมืองหลักสินค้าบุกอินเดีย ทำยอดขายสินค้า 2,785 ล้านบาท พร้มจับมือห้างใหญ่อินเดียเปิดตลาดสินค้าผลไม้ไทยสู่ผู้บริโภค
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเดินทางเยือนเมืองบังกาลอร์ และไฮเดอร์ราบัด ประเทศอินเดีย เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการค้า การจับคู่ธุรกิจ โดยได้นำนักธุรกิจไทยกว่า 80 คนมาเจรจาค้า ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถเจรจาการค้ารวมมีมูลค่า 2,785 ล้านบาท แยกเป็นที่บังกาลอร์ 1,100 ล้านบาท ประกอบด้วยยาง 11,000 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 100 ล้านบาท มันสำปะหลัง 3,500 ตัน มูลค่า 72 ล้านบาท กาวผง 1,200 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาท. MOU สินค้าอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ อาหาร เคมีภัณฑ์ รวมมูลค่า 805 ล้านบาท และเปิดตัวสินค้าไทย 200 รายการใน Bigbasket.com เว็บขายของออนไลน์ใหญ่ที่สุดในอินเดีย คาดว่าในปีแรกจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
ขณะที่เมืองไฮเดอราบัดจำนวน 1685 ล้าน ประกอบด้วย ไม้ยาง 1280 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 17.5 ล้านบาท. ทีวี LCD 1280 เครื่อง มูลค่า 1500 ล้านบาท เสื้อผ้า 100 ล้านบาท แป้งมัน 1000 ตัน มูลค่า 18 ล้านบาท และบริการด้านโลจิสติกส์ที่ช่วยการส่งออกของผู้ประกอบการรายย่อยของไทย ขยายการลงทุนมูลค่ารวม 50 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีพาณิชย์ของรัฐเตลังกานา และได้มีความเห็นร่วมกันในการหาลู่ทางในการทำความตกลงระหว่างกระทรวงพาณิชย์และรัฐเตลังกานา เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกงสุลใหญ่ของไทยที่เมืองเจนไน เป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อกำหนดหัวข้อและประเด็นต่างๆ ของความร่วมมือ เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า การตั้งศูนย์กระจายสินค้า
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังได้เปิดงานเทศกาลอาหารและผลไม้ไทย ไทยฟู้ดแอนด์ฟรุ้ต ฟิเอสต้า (Thai Food and Fruits Fiesta) ที่จัดขึ้นในซุปเปอร์มาร์เก็ตรีไลแอนซ์ สาขาหลัก 25 สาขา ใน 3 รัฐ คือ รัฐเตลังกานา ทมิฬนาฑู และรัฐอานธรประเทศ เป็นเวลา 1 เดือน ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และรีไลแอนซ์ รีเทล โดยได้รับความร่วมมือจากนาย อาวินาช โจชิ ผู้อำนวยการธุรกิจ ห้างรีไลแอนซ์ ให้การต้อนรับ
ปัจจุบัน อาหารไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลกเพิ่มยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความเป็นเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนอาหารชาติใดในโลก และด้วยรสชาติมีความใกล้เคียงกับอาหารอินเดีย ที่เผ็ดร้อนและใช้กะทิเป็นวัตถุดิบหลักเช่นเดียวกับแกงของอินเดียใต้ ขณะที่ผลไม้ที่ไทยส่งออกสูงสุด คือ ทุเรียน มังคุด และลำไย โดยมีมูลค่าส่งออกรวมทั้งหมด 3,213 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 99,000 ล้านบาทในปี 2562 และด้วยมูลค่าส่งออกดังกล่าวส่งผลให้ไทยเป็นผู้ส่งออกผลไม้อันดับที่ 6 ของโลก
ขณะที่อินเดีย ปัจจุบันมีการนำเข้าผลไม้สดจากไทยหลายชนิด โดยเฉพาะมังคุด สัปปะรด มะม่วง เงาะ ฝรั่ง ลำไย และทุเรียน อันเป็นผลจากการลดอัตราภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย และมีผลไม้อื่นๆ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวอินเดียเพิ่มขึ้น คือ มะพร้าวน้ำหอม มะขามหวาน ลิ้นจี่ ซึ่งเชื่อว่ายังมีโอกาสขยายตัวได้อีกต่อไปในตลาดอินเดีย
"งานไทยฟู้ดแอนด์ฟรุ้ต ฟิเอสต้า ยังได้ขยายความร่วมมือไปถึงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างไทยและห้างรีไลแอนซ์ โดยยินดีและพร้อมสนับสนุน เพราะจะเป็นวิธีที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ และห้างรีไลแอนซ์ตั้งเป้าจะขยายกิจกรรมนี้ไปทั่วประเทศอินเดียต่อไป เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคชาวอินเดียได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารและผลไม้ไทยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนชาติอื่นใดในโลก ผ่านช่องทางการค้าสมัยใหม่ใซุปเปอร์มาร์เก็ตสาขาต่างๆ ในเครือรีไลแอนซ์ทั่วประเทศอินเดีย" นายจุรินทร์ กล่าว
