‘นิด้าโพล’ เผย รบ.แก้ฝุ่น PM2.5 ไร้ประสิทธิภาพ จี้มาตรการจริงจัง

‘นิด้าโพล’ เผย รบ.แก้ฝุ่น PM2.5 ไร้ประสิทธิภาพ จี้มาตรการจริงจัง

"นิด้าโพล" เผย ประชาชนมองหน่วยงานรัฐแก้ปัญหาฝุ่นPM 2.5 ไร้ประสิทธิภาพ จี้มาตรการจริงจังที่เป็นรูปธรรมในการควบคุม

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.63 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพลสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องการจัดการวิกฤตฝุ่นละอองทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-16 ..2563 จากประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ กระจายทุกระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,256 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการจัดการวิกฤตฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพฯ

จากการสำรวจเมื่อถามถึงการปฏิบัติตัวเมื่อเผชิญปัญหาจากวิกฤตฝุ่นละอองของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 69.98 ระบุว่า สวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน รองลงมา ร้อยละ 21.50 ระบุว่า หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน ร้อยละ 10.59 ระบุว่า งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ร้อยละ 6.61 ระบุว่า ใช้เครื่องฟอกอากาศ ร้อยละ 5.41 ระบุว่า ปิดประตู-หน้าต่างกันฝุ่น ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ทำอะไรเลย ร้อยละ 3.50 ระบุว่า ไม่สนใจ เพราะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง

ร้อยละ 3.18 ระบุว่า ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ ร้อยละ 2.23 ระบุว่า ไม่สนใจ เพราะเป็นปัญหาเล็ก ร้อยละ 1.83 ระบุว่า ไม่สนใจ เพราะคิดว่าร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานดี ร้อยละ 0.64 ระบุว่า เดินทางไปอยู่ต่างจังหวัดที่ไม่มีฝุ่น ร้อยละ 0.48 ระบุว่า ไม่ได้ทำอะไร เพราะไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้ออุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละออง และร้อยละ 0.32 ระบุอื่น ได้แก่ ปลูกต้นไม้ ฉีดน้ำบริเวณรอบบ้าน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ซื้อเครื่องตรวจจับค่า PM 2.5 มาใช้

ด้านประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง พบว่า ร้อยละ 2.47 ระบุว่า มีประสิทธิภาพมาก เพราะ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมีการจัดการแก้ปัญหาที่ดี ร้อยละ 17.60 ระบุว่า ร้อยละ ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เพราะ มีการพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่น มีการแจ้งเตือนเขตพื้นที่สีแดง ทำให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่ได้เกี่ยวกับหน่วยงานภาครัฐ แต่เป็นที่ตัวบุคคลในการทำให้เกิดฝุ่นละออง

157941336088

ร้อยละ 40.84 ระบุว่า ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังแก้ไขได้ไม่ตรงจุด ทำงานไม่จริงจัง ไม่ต่อเนื่อง ควรมีมาตรการอย่างจริงจังที่เป็นรูปธรรมในการควบคุม เช่น การก่อสร้าง รถควันดำ หรือผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษ ร้อยละ 36.22 ระบุว่า ไม่มีประสิทธิภาพเลย เพราะการจัดการของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการตื่นตัว ไม่มีการเเก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม ไม่มีความชัดเจน ปัญหายังเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น งานก่อสร้างต่าง รถประจำทาง/รถส่วนตัวยังมีควันดำ และร้อยละ 2.87 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อถามถึงการมีส่วนช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 30.57 ระบุว่า ใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนการขับรถส่วนตัว รองลงมา ร้อยละ 24.20 ระบุว่า ฉีดน้ำล้างฝุ่นละอองหน้าบ้านตนเอง ร้อยละ 23.09 ระบุว่า หยุดเผาขยะ ใบไม้ เศษวัสดุ ร้อยละ 21.66 ระบุว่า ไม่มีส่วนช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง เพราะ การใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ทำอะไรหรือสร้างปัญหาอะไรเกี่ยวกับฝุ่น อยู่แต่ที่บ้าน/อาคารไม่ได้ไปไหน ขณะที่บางส่วนระบุว่า เนื่องจากจำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวเพื่อไปทำงาน

ร้อยละ 16.96 ระบุว่า ดับเครื่องยนต์ ทุกครั้งเวลาจอดรถ ร้อยละ 8.20 ระบุว่า หยุดการจุดธูป ประทัด ร้อยละ 7.48 ระบุว่า นำรถไปเข้าอู่เพื่อแก้ไขปัญหาควันดำ ร้อยละ 2.23 ระบุว่า หยุดการก่อสร้าง และร้อยละ 3.50 ระบุอื่น ได้แก่ ใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน หรือเดินแทนการใช้รถยนต์ ปลูกต้นไม้ และอยู่บ้านเพื่อลดการใช้รถ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ลดการใช้รถที่เติมน้ำมันดีเซล เปลี่ยนมาใช้รถที่เติมน้ำมันเบนซิน หรือ E20 แทน