ไทยเฝ้าระวัง 24 รายผู้ป่วยปอดอักเสบ

ไทยเฝ้าระวัง 24 รายผู้ป่วยปอดอักเสบ

ไทยเฝ้าระวัง 24 รายผู้ป่วยปอดอักเสบ ขณะที่จีนพบผู้ติดเชื้อเพิ่มวันเดียว 4 ราย - ศูนย์การแพทย์ลอนดอนชี้เมืองอู่ฮั่นอาจมีผู้ติดเชื้อกว่าพันราย

สธ.เผยชายไทยเฝ้าระวังติดโคโรนาพันธุ์ใหม่จากอู่ฮั่น รอผลแล็ป ขณะที่ไทยมีผู้ป่วยเฝ้าระวังสะสม 24 ราย ในจำนวน15 ราย ที่รักษาอาการดีขึ้นกลับบ้านแล้ว ด้านจีนยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม4รายในวันเดียว ส่วนศูนย์การแพทย์ในกรุงลอนดอนระบุ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ในเมืองอู่ฮั่นอาจมากถึง 1,723 คน

วานนี้ (18 ม.ค.) นพ.สุวรรณชัย วรรณนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ว่า ตอนนี้ประเทศไทย มีการตรวจยืนยันว่าป่วยแล้ว 2 ราย ส่วนรายที่เฝ้าระวังอยู่ที่จังหวัดนครปฐมนั้น ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แลป) ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ แต่ก็ย้ำว่า ไม่ปิดบังข้อมูล 

ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยเฝ้าระวังสะสม 24 ราย ในจำนวนนี้มี 15 ราย ที่รักษาอาการดีขึ้นกลับบ้านแล้ว เหลือ 9 ราย ซึ่งบางรายหายแล้ว แต่ยังให้อยู่รพ.เพื่อตรวจให้ชัดเจนจนมั่นใจว่าป่วยจากเชื้อตัวไหน ที่ผ่านมาพอตรวจแล้วก็พบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ สายพันธุ์บี

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีการคาดการณ์ในต่างประเทศว่าสถานการณ์ในประเทศจีนอาจจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากกว่า 1 พันรายนั้น อาจจะมีความเป็นไปได้ แต่เนื่องจากเชื้อไวรัสในกลุ่มโคโรนามีหลายตัว ตัวที่รุนแรงคือเมอร์ส และซาร์ส นอกนั้นบางตัวก็ทำให้อาการรุนแรงได้ บางตัวก็ไม่รุนแรง 

อย่างไรก็ตาม นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า อย่าลืมว่าการจะนับจำนวนเคสได้คือต้องเข้ารับการรักษาในรพ.เท่านั้น หากไม่ป่วยมากก็ไม่มารพ. ก็เลยไม่ได้มีการรายงานเข้าระบบ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้มากว่า แต่นับตั้งแต่ที่ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลทางพันธุ์กรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และไทยตรวจพบผู้ป่วยรายแรกซึ่งเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นทำให้หลายๆ ประเทศที่มีเคสเฝ้าระวังอยู่มีความตื่นตัว มีการตรวจยืนยันเชื้อมากขึ้น และมีหลายประเทศที่มีเคสเฝ้าระวังประสานขอข้อมูลมายังประเทศไทย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และองค์กรระหว่างประเทศ

“ตอนนี้ที่จีนรายงานเสียชีวิต 2 ราย ทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว ส่วนของเรา 2 รายที่เจอที่ไทยก็เป็นผู้สูงอายุเช่นกัน แต่คนอายุน้อย ร่างกายแข็งแรงก็ติดได้แต่อาจจะไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่ข้อสรุป เพราะข้อมูลยังน้อย ต้องรอสักระยะก็จะเกิดการเรียนรู้ทั้งโลก แต่ไทยต้องยกระดับการป้องกันสูงสุดเอาไว้ก่อน ทำเชิงรุกเต็มที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนไทยโดยรวม รวมถึงนักท่องเที่ยวไว้ก่อน แม้จะทำให้การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นสะดวกน้อยลงไปหน่อย แต่ก็แป็นไปตามมาตรฐานสากล” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

  • จีนเผยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม4ราย

หน่วยงานสาธารณสุขเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แถลงวานนี้ (18ม.ค.)ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ทำให้เป็นโรคปอดอักเสบเพิ่ม4คน โดยทั้ง4คนถูกนำตัวเข้ารับการรักษาด้วยอาการปอดบวมเมื่อวันพฤหัสบดี(16ม.ค.)และอาการในขณะนี้ยังทรงตัว ซึ่งการออกแถลงการณ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของหน่วยงานสาธารณสุขเมืองอู่ฮั่น

ขณะที่เอ็มอาร์ซี เซนเตอร์ ฟอร์ โกลบอล อินเฟคเชียส ดีซีส อนัลลิซิส ประจำอิมพีเรียล คอลเลจ ในกรุงลอนดอน ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ในเมืองอู่ฮั่นนับจนถึงวันที่ 12 ม.ค.น่าจะมีจำนวนมากถึง1,723 คน ไม่ใช่จำนวน 41 คนตามที่ทางการจีนระบุ

ด้านรัฐบาลปักกิ่ง  ยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการต่อรายงานของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน เช่นเดียวกับดับเบิลยูเอชโอ ที่มีอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนเป็นที่ปรึกษา ยังคงสงวนท่าที แต่เมื่อกลางสัปดาห์นี้ ได้ออกประกาศให้ทั่วโลกเพิ่มการเฝ้าระวัง หลังมีการยืนยันการพบผู้ติดเชื้อในต่างประเทศแล้ว 2 แห่ง คือในไทยและในญี่ปุ่น

ทั้งนี้ รายงานการติดเชื้อโคโรนาไวรัสเกิดขึ้นเฉพาะกับบุคคลที่เดินทางหรืออาศัยในเมืองอู่ฮั่นเท่านั้น แต่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสดังกล่าวจะแพร่ระบาดในวงกว้าง เนื่องจากชาวจีนจำนวนมากจากประชากรทั้งหมด 1.4 พันล้านคนของจีน จะเดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้า ซึ่งเพิ่มความวิตกว่าเชื้อโรคดังกล่าวอาจจะแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

ขณะที่หนังสือพิมพ์หมิงเป้า รายงานว่า ในกลุ่มผู้ติดเชื้อไวรัสตัวใหม่ในอู่ฮั่น มีกลุ่มผู้ป่วยที่ใกล้ชิดกัน ได้แก่ สามี-ภรรยาคู่หนึ่ง และกรณีผู้ติดเชื้อสามคน ได้แก่ พ่อ- ลูกและหลาน แต่ยังไม่อาจสรุปว่าเป็นการติดต่อระหว่างคนสู่คน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความเห็นว่ากรณีผู้ติดเชื้อสามี-ภรรยา สามีทำงานที่ตลาดหัวหนัน และซื้ออาหารกลับมายังบ้านหลังจากนั้นภรรยาก็มีอาการป่วย โดยภรรยายืนยันว่าเธอไม่ได้ไปที่ตลาดแห่งนั้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อมีจำนวน 739 คน ในจำนวนนี้ เป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์พยาบาล 419 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดป่วย

  • สหรัฐตรวจเข้มสนามบิน3แห่ง

เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์(17ม.ค.)ว่า สนามบิน 3 แห่งของสหรัฐในซานฟรานซิสโก, นิวยอร์ก และลอสแองเจลิส เริ่มทำการตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน เนื่องจากวิตกว่าผู้โดยสารเหล่านั้นอาจจะติดเชื้อโคโรนาไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบที่ระบาดอยู่ในขณะนี้

การตรวจสอบเข้มข้นของสหรัฐมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ในเมืองอู่ฮั่นของจีน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวมเป็น 2 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายอายุ 69 ปี ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนับตั้งแต่ที่มีอาการปอดอักเสบในวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ซีดีซี ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสนี้จะแพร่จากสัตว์สู่คน และจากคนสู่คนแต่ถึงขณะนี้ ยังถือว่าสหรัฐมีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดการแพร่ระบาด แต่เพื่อความไม่ประมาทต้องมีมาตรการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อม

ส่องที่มา-ความรุนแรงของไวรัส

ไวรัสโคโรนา มีทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ที่เคยเกิดการระบาดในมนุษย์ สำหรับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดขณะนี้เป็นสายพันธุ์ที่ 7

ศาตราจารย์มาร์ก วูลเฮาส์ จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ กล่าวว่า ไวรัสโคโรนาเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการตั้งแต่เป็นหวัดเพียงเล็กน้อยไปจนถึงการป่วยรุนแรงจนเสียชีวิต เมื่อพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แพทย์ต้องรู้ก่อนว่าอาการของโรครุนแรงแค่ไหน เพราะอาการที่ปรากฏจะมากกว่าการเป็นไข้หวัดแม้ว่าไวรัสชนิดนี้จะไม่รุนแรงเท่ากับไวรัสซาร์ส

ไวรัสชนิดนี้  เป็นไวรัสชนิดใหม่ที่ถูกค้นพบได้ตลอดเวลาและมักจะมาจากจากสปีชีส์ตัวใดตัวหนึ่งที่เข้าสู่ตัวมนุษย์ ซึ่งในประเด็นนี้ ศาสตราจารย์โจนาธาน บอล นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ระบุว่าหากเทียบกับโรคระบาดหลายโรคในอดีต เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ย่อมต้องมาจากแหล่งที่มาจากสัตว์ ตัวอย่างเช่น โรคซาร์ส เป็นเชื้อไวรัสที่มาจากชะมด ส่วนโรคเมอร์ส ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 858 คน จากผู้ติดเชื้อ 2,494 คน ในการระบาดเมื่อปี 2555 เป็นไวรัสที่มาจากอูฐแพร่เข้าสู่มนุษย์

  • จีนคุมเข้มคัดกรอง-เฝ้าระวัง

หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัส โรงพยาบาลในจีนได้แยกผู้ป่วยโรคนี้ออกจากผู้ป่วยทั่วไป และติดตามบุคคลติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยอีกกว่า 150 คน เพื่อสอบสวนโรค นอกจากนี้ ยังติดตั้งจุดสแกนอุณหภูมิร่างกายตามสถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งปิดตลาดขายส่งปลาที่เป็นแหล่งที่มาของไวรัสชนิดนี้เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค

บรรดาผู้เชี่ยวชาญมองการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาแตกต่างกันไป โดยผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง บอกว่าตอนนี้ยังยากที่จะรู้ว่าเราควรกังวลแค่ไหนจนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมา โดยเฉพาะการยืนยันแหล่งที่มาของไวรัส ส่วนผู้เชี่ยวชาญอีกคน ระบุว่า รู้สึกกังวลเมื่อรู้ว่ามีไวรัสเข้าสู่ตัวมนุษย์เพราะถือเป็นการเอาชนะด่านแรกเข้ามาได้แล้ว

ด้านศาสตราจารย์โจนาธาน บอล นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ให้ความเห็นว่า เมื่อไวรัสเข้ามาอยู่ในตัวมนุษย์และสามารถผลิตตัวเองได้ใหม่ เท่ากับว่าไวรัสตัวนั้นสามารถกลายพันธุ์ได้และอาจทำให้แพร่กระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและยิ่งเป็นอันตรายกับมนุษย์มากขึ้น

  • สาธารณสุขเชียงใหม่ปัดข่าวพบผู้ป่วยไวรัสโคโรนา

สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ แถลงชี้แจงกรณีที่มีข่าวลือว่าพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบในจังหวัดเชียงใหม่ จากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ของจีน โดยยืนยันว่า ยังไม่พบผู้ป่วยที่จังหวัดเชียงใหม่ตามข่าวลือที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเชียงใหม่จะมีเที่ยวบินตรงจากอู่ฮั่นสัปดาห์ละ 3 เที่ยว แต่มีการดำเนินมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวด

นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการติดต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากคนสู่คนในประเทศไทย โดยที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ได้มีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือเทอร์โมสแกน ซึ่งเป็นกล้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแบบไม่สัมผัส เพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาพร้อมสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่นมายังจังหวัดเชียงใหม่ สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน

ที่ผ่านมา มีการดำเนินการไปแล้วจำนวน 6 เที่ยวบิน รวมจำนวนผู้โดยสารที่ผ่านการคัดกรองทั้งสิ้น 711 คน ยังไม่พบผู้ที่มีอาการผิดปกติ ส่วนการคัดกรองที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยสงสัย 2 ราย เป็นหญิงไทยไปทำงานที่จีน เดินทางกลับจากอู่ฮั่น-สุวรรณภูมิ แต่ผลการตรวจยืนยันพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ B

ส่วนเด็กหญิงชาวจีน อายุ 7 ปี เดินทางจากท่าอากาศยานอู่ฮั่น-เชียงใหม่ ผลการตรวจยืนยันพบว่าเชื้อ Rhinovirus และเชื้อปอดบวมที่พบได้ทั่วไป โดยการตรวจยืนยันเป็นการตรวจจากห้องชันสูตรมาตรฐานระดับประเทศ 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลบำราศนราดูร และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

นพ.จตุชัย ระบุด้วยว่า ข่าวลือเรื่องพบผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (H3N2) ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็นข่าวปลอมเนื่องจากเชื้อไวรัส H3N2 เป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่มีการระบาดประจำในประเทศไทย ไม่ใช่โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการดูแลเหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จึงขอให้ประชาชนทุกคนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวที่ส่งต่อกันโดยไม่มีการอ้างอิงจากภาครัฐ และขอให้ทุกคนหยุดการปล่อยข่าวเท็จ หรืองดการแชร์หรือส่งต่อข่าวเท็จดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลเสียต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้