'จุรินทร์' สวมบท 'เซลส์แมน' ขายสินค้าไทยให้อินเดียวันเดียวทะลุ 1,100 ล.

'จุรินทร์' สวมบท 'เซลส์แมน' ขายสินค้าไทยให้อินเดียวันเดียวทะลุ 1,100 ล.

'จุรินทร์' นำทัพนักธุรกิจ บุกไฮเดอราบัด ตั้งเป้าขายไม้ยางพาราเพิ่มมากขึ้น ขณะเจรจาการค้าเมืองเบงกาลูรู ขายสินค้าได้มูลค่า 1,100 ล้านบาท เล็งยกตลาดอินเดีย เป็นคู่ค้าสำคัญ เพราะมีกำลังซื้อเป็นอับดับ 3 ของโลก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำนักธุรกิจภาคเอกชนเดินทางมาเปิดเครือข่ายเจรจาธุรกิจวันที่ 2 ที่เมืองไฮเดอราบัด เมืองหลวงรัฐเตลังกานา ประเทศอินเดีย โดยมีนายคาลวากุลท์ทารากา รามา เรา รัฐมนตรีบริหารเทศกิจพัฒนาชุมชนเมืองอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ และพาณิชย์ แห่งรัฐเตลังกานาให้การต้อนรับ โดยเป้าหมายในการเดินทางมาไฮเดอราบัด คือ การเปิดตลาดไม้ยางพารา เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์รองรับนโยบาย House for all คนอินเดียต้องมีบ้านทุกคน

157933488815

นายจุรินทร์ กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวจากสงครามการค้าสหรัฐฯ จีน แต่ตรงกันข้ามอินเดีย เศรษฐกิจเติบโตได้ถึง 5% เพราะอินเดียมีกำลังซื้อเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป้าหมายของรัฐบาลอินเดียต้องการให้เศรษฐกิจโตในประเทศภายในปี 2564 มูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จึงเป็นโอกาสดีของไทยที่จะเข้ามาเปิดตลาด ซึ่งมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินเดีย ปี 2561 มีมูลค่าการค้า 1.2 ล้านดอลลาร์และแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกปีจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเมืองไฮเดอราบัด เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไอทีและอุตสาหกรรมยาของอินเดีย จนได้รับการขนานนามว่า ไซเบอราบัด (Cyberabad) และ จีโนม วัลเลย์ (Genome Valley) ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกไม้ยางพาราอันดับ 1 ของโลก ผลิตได้ 120 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี ไม้พาเลท 4 ล้านตันต่อปี โดยไม้ยางพาราไทยได้จากการเพาะปลูก ไม่ใช่การตัดไม้ทำลายป่า ได้รับมาตรฐาน FSC และ PEFC รวมถึงอุตสาหกรรมไม้ยางพารา ซึ่งไทยได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากความตกลงร่วมมือเขตการค้าเสรี FTA อาเซียน อินเดีย จึงเป็นโอกาสดีของไทย เพราะรัฐเตลังกานา กำลังมีนโยบายสำคัญสร้างเฟอร์นิเจอร์ปาร์ค รวมถึงการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยา

โดยก่อนหน้านี้ที่เมืองเบงกาลูรู ประสบความสำเร็จจากการเจรจาธุรกิจ โดยไม้ยางพารา 11,000 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 100 ล้านบาท มันสำปะหลัง 3,500 ตัน มูลค่า 72 ล้านบาท กาวผง 1,200 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาท เฟอร์นิเจอร์ อาหาร เคมีภัณฑ์ รวมมูลค่า 805 ล้านบาท และได้เปิดตัวสินค้าไทย 200 รายการใน Bigbasket.com คาดว่าในปีแรกจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท รวมมูลค่าการเจรจาทั้งหมดประมาณ 1,100 ล้านบาท

157933491019

ด้านนายอัครินทร์ วงศ์อภิรัตน์ ตัวแทนนักธุรกิจไม้ยางพาราไทย มองว่า ไทยมีช่องทางและโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรมายังอินเดียได้หลายรายการ โดยเฉพาะไม้ยางพารา เนื่องจากอินเดียอยู่ระหว่างกำลังพัฒนาประเทศไปสู่เมืองเฟอร์นิเจอร์ปาร์ค และยกระดับความยากจนของประชากรอินเดียให้มีที่อยู่อาศัยครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรองรับนโยบาย House for all คนอินเดียต้องมีบ้านทุกคน จึงเชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาของอินเดีย ดังนั้น กลุ่มธุรกิจไม้ยางพาราที่เดินทางมาร่วมคณะกับกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ มีความใจ จะสามารถเจรจาส่งออกไม้ยางพาราได้เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าให้มูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี โดยที่ผ่านมาไทยส่งออกไม้ยางพาราให้กับอินเดียได้เพียง 1% ต่อปี ของภาพรวมการส่งออกไม้ยางพารา ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อย แต่เมื่ออินเดียตั้งเป้าจะผลิกโฉมเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่มากขึ้นในอนาคต เราจึงมั่นใจว่าในอีก 3-4 ปี จะส่งออกไม้ยางพาราได้เพิ่มขึ้นได้มากกว่า 2%