ตลท.กาง '3แผนธุรกิจ' ปี 63 ลุยเชื่อมตลาด 'ซีแอลเอ็มวี'

ตลท.กาง '3แผนธุรกิจ' ปี 63 ลุยเชื่อมตลาด 'ซีแอลเอ็มวี'

"ตลาดหลักทรัพย์" เปิดแผนงานปี 63 มุ่งเน้น3 ลดความซ้ำซ้อนกฎเกณฑ์ เชื่อมโยงซีแอลเอ็มวี สร้างโอกาสระดมทุนเอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ พร้อมมุ่งเน้นการเติบโตยั่งยืน

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า  แผนการดำเนินงานปี 2563 ตลาดหลักทรัพย์เน้น 3 เรื่อง คือ 1.เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับรูปแบบการทำงาน และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร มุ่งเน้นลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการและกฎเกณฑ์ต่างๆ เปิดให้บริการ One-Stop Service แก่บจ.

2.การเติบโตด้วยการสร้างโอกาสใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มุ่งเน้นความเชื่อมโยงกับตลาดทุนในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม  ขยายโอกาสการระดมทุนของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ และ 3.เติบโตไปกับผู้ร่วมตลาดและสังคมอย่างยั่งยืน ปรับปรุงกฎเกณฑ์ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น คุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ผู้ร่วมตลาดได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ลดต้นทุนการทำธุรกิจให้แก่อุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ปรับเป้าหมายมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแคป)ปี 2566  คาดว่าจะไม่ถึงเป้า 150% ของผลิตภัณฑ์มลรวมในประเทศ(จีดีพี) เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และความสามารถทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ปรับตัวลดลง จากอดีตเติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า10% ส่วนทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิหุ้นไทยติดต่อกัน 3 ปีแล้ว เชื่อว่าเม็ดเงินต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย หากทิศทางตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้น และความสามารถทำกำไรของบจ.สูงขึ้น

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท.  เปิดเผยว่าคาดว่าปี2563 ตลาดหลักทรัพย์ จะมีมูลค่ามาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น 5.5แสนล้านบาท แบ่งเป็นมาร์เก็ตแคปบริษัทเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 2.5แสนล้านบาท และอีก2.5แสนล้านบาท จากบจ.เดิมที่มีการระดมทุนเพิ่ม จากปี2562 ที่มีมาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น7.8แสนล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นIPO 3.8แสนล้านบาท และบจ.เดิมเพิ่มทุนอีก4แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณบริษัทบริษัทขนาดใหญ่ มาร์เก็ตแคปเกิน 1 หมื่นล้านบาท สนใจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากภาพรมการทำธุรกิจทำได้ยากขึ้น จากเทคโนโลยีเข้ามาดิสรัปชั่น และการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น