"ถาวร" บี้ไทยสมายล์ลดต้นทุน หวังเห็นกำไรปีนี้

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด (สายการบินไทยสมายล์) วันนี้ (17 ม.ค.) โดยระบุว่า ขณะนี้พบว่าสายการบินไทยสมายล์มีเครื่องบินให้บริการรวม 20 ลำ เป้าหมายที่ไทยสมายล์จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้า ขายสินค้าบนเครื่อง รวมทั้งไทยสมายล์จะต้องทำกลยุทธ์ทางการตลาดร่วมกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ให้มากขึ้น

 “ไทยสมายล์จะต้องเพิ่มความร่วมมือลดค่าใช้จ่ายร่วมกับการบินไทย ประเด็นสำคัญคือการหลีกเลี่ยงการทับเส้นทางบิน ต้องเชื่อมรูทการบินกับการบินไทย เพราะการบินทับเส้นทางทำให้เสียโอกาส เพิ่มค่าใช้จ่ายด้วย”

           

นอกจากนี้ ตนได้ขอให้นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มาหาชน) รวบรวมผลการศึกษา วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากนโยบายเปิดน่านฟ้าเสรี (Open Sky) ในส่วนของสายการบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ เพื่อเตรียมนำไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การกำหนดแนวทางแก้ปัญหา อาทิ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) รวมทั้งธุรกิจการท่องเที่ยวต่างๆ

ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม ดีดีการบินไทย กล่าวว่า ปัจจุบันตนได้รวบรวมทุกปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเปิดน่านฟ้าเสรี ซึ่งเป็นปัญหาที่การบินไทย ไทยสมายล์ และสายการบินของไทยได้รับผลกระทบ ซึ่งรวบรวมเสร็จทั้งหมดแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการรวบรวมผลกระทบจากการเปิดน่านฟ้าเสรี การแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินที่เป็นอยู่ รวมไปถึงสิทธิพิเศษของสายการบินแห่งชาติ โดยขั้นตอนหลังจากนี้เตรียมเสนอให้นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนจะจัดเวทีเสวนาระดมความเห็นจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

            

นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท ปัจจุบันมีผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าผลประกอบการในปี 2563 ไทยสมายล์จะมีกำไร หลังจากที่ปีก่อนมีผลขาดทุนประมาณ 100 ล้านบาท