นายกฯ ขอดูความจำเป็น แจง กมธ.กฎหมาย ใช้อำนาจแจ้งจับ ปชช.ห้วง คสช.

นายกฯ ขอดูความจำเป็น แจง กมธ.กฎหมาย ใช้อำนาจแจ้งจับ ปชช.ห้วง คสช.

"ประยุทธ์" ขอดูความจำเป็น แจงกมธ.กฎหมาย ใช้อำนาจแจ้งจับ ปชช.ห้วง คสช. ไม่หวั่น พ.ร.บ.คำสั่งเรียก บอกครั้งก่อนเชิญมา 4 รอบ ก็ไม่ไป ห่วงนำงบประมาณเป็นประเด็นกระทบ ปชช.-เงินเดือน กมธ.

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 63 ที่องค์การทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรมีมติ เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะอดีตหัวหน้า คสช. และอดีตเลขาธิการ คสช. ประกอบด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร , พล.อ.ธีรชัย นาควานิช และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. มาให้ข้อมูลกรณีการดำเนินคดีโดยรัฐเพื่อกลั่นแกล้งประชาชนผู้เห็นต่างทางการเมืองนับตั้งแต่รัฐประหาร 2557 ว่า ขอดูก่อนว่าจำเป็นหรือไม่ หากจำเป็นก็จะไป แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ส่งหนังสือหรือส่งคนไปชี้แจง ความจริงน่าจะจบได้แล้ว ทั้งนี้ก็มีข่าวผ่านในโซเชียลมีเดีย เผยแพร่ข้อมูลว่ามีการบุกรุกอะไรหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ เห็นกันหรือยัง ตัวประธานเองนั้นแหละ

เมื่อถามว่า คณะกรรมาธิการฯ ระบุจะใช้ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เขาบอกว่า ถ้าจำเป็นจะออกคำสั่งเรียกไม่ใช่หรือ

เมื่อถามว่า คณะกรรมาธิการฯ ปฎิเสธรับหนังสือชี้แจง และจะทำหนังสือเชิญอีกรอบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คราวก่อนตนก็ไม่ได้ไปตั้ง 4 ครั้ง เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตนไม่ได้ท้าทายอะไรเขา แต่บางเรื่องควรจะเป็นเรื่องหรือไม่ จะจบหรือไม่จบ ว่ากันมา

"แต่สิ่งสำคัญเรื่องงบประมาณ เขาก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ต้องถามว่าใครเดือดร้อนประชาชนและข้าราชการเดือดร้อนใช่หรือไม่ แม้กระทั่งคณะกรรมาธิการฯเดือนร้อนหรือไม่ มีเงินเดือนจ่ายไหม ที่ว่าจะทุจริตก็ให้ไปตรวจสอบกันอีกที ถ้าพูดเหมารวมเช่นนี้ประชาชนก็ไม่เข้าใจทั้งหมด จะกลายเป็นว่าทำงบประมาณมาผิด ซึ่งผมว่าก็ไม่ได้ผิด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ต้องเอางบประมาณที่ได้มาทั้งก้อนมาดู แม้กระทั่งโครงการต่างๆก็ต้องเอามาดูอีกรอบ เวลาต้องทำงบประมาณจริง เมื่อได้งบประมาณมาแล้ว ต้องมาดูอีกว่าจะลงตรงไหน อย่างไร นี่คือความยาก ง่ายของรัฐบาลที่ทำมา ถ้าทำแบบเดิมก็ง่ายหมด ได้งบประมาณมา ก็อนุมัติโครงการ แต่ของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าทำไม่ตรงเจตนารมณ์หรือยุทธศาสตร์ตนก็ไม่อนุมัติ และไม่เอาเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรี(ครม.)นั้นคืออำนาจนายกรัฐตรี ไม่ใช่เสนอมาตนจะอนุมัติหมด หลายอย่างก็ให้กลับเอาไปทบทวนและทำมาใหม่ เพื่อให้ตรงกับนโยบายของเรา ไม่เช่นนั้นก็ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยไม่เกิดประโยชน์

เมื่อถามว่า จะทำงบประมาณล่าช้า ทำให้รัฐบาลทำงานสะดุดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องสะดุดแน่ เพราะโครงการใหญ่ใช้งบประมาณไม่ได้ จำเป็นต้องใช้งบประมาณไปพรางก่อน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมาก ดังนั้นโครงการขนาดใหญ่ลงทุนไม่ได้เลย ทำได้แต่โครงการขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่โครงการใหญ่ๆจำนวนแสนล้านบาท หรือ สองแสนล้านบาท ทั้งรัฐวิสาหกิจ ไม่สามารถใช้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถ้างบประมาณผ่านสภาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเราก็เหลือเวลาประมาณ 6 เดือน เราเกรงว่าจะใช้งบประมาณไม่หมด เราก็มีมาตราการเร่งรัดการใช้จ่าย ตรงไหนติดขัด ก็แก้ไขให้ดำเนินการได้ และ วันนี้ได้เตรียมแผนงานคู่ขนาน ไม่ใช่ว่าพอถึงเวลาอนุมัติงบประมาณไปแล้วแล้ว มาศึกษากันใหม่ เราจะอนุมัติโครงการที่มีผลศึกษาแล้วและมีความพร้อมแล้ว ทั้งนี้ที่ผ่านมา เสนอมาแล้วยังไม่พร้อมก็ไปเริ่มต้นกันใหม่ก็ยืดยาดไปเรื่อยเบิกเงินไม่ได้ตามไตรมาสจึงทำให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเป็นไปได้ยาก ก็ต้องแก้ไขกันทั้งหมดถามว่ายากหรือไม่