กพท.คลอดกฎเหล็กคุมโดรน ตั้งเป้ากำหนดใช้ปีนี้

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2563 โดยระบุว่า ยุทธศาสตร์ในปีนี้ กพท.จะมุ่งเน้นงานด้านกำกับดูแลการบินพลเรือน และด้านส่งเสริมอุตสาหกรรมการบิน โดยจะประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ

1.การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในอนาคต อาทิ การใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) การให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการรับรองสถาบันฝึกอบรมด้านการบิน และแผนนิรภัยการบิน

2.การกำกับดูแลด้านเศรษฐกิจ สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการสายการบิน เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ และอำนาจของ กพท.ในการกำกับดูแลทางเศรษฐกิจ ตาม พรบ.การเดินอากาศฉบับใหม่

3.การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่อุปทานของการบินของไทย ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในด้านมาตรฐาน คุณภาพการให้บริการ องค์ความรู้ และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายจุฬา ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ กพท.จะทำให้จริงจังในปีนี้ คือ การกำกับดูแลการใช้โดรน ปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแล โดยอาจจะต้องออกกฎหมายใหม่เพื่อรองรับการขยายตัวของโดรน จากที่ปัจจุบันมีคนลงทะเบียนได้ใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่นักบินอากาศยานไร้คนขับ อยู่ประมาณ 1.6 หมื่นคน แต่เกณฑ์สากลปัจจุบันมีการควบคุมโดรน ให้เหมือนเครื่องบิน

ดังนั้นมาตรฐานของไทย จึงต้องมีใบอนุญาตเหมือนกันกับเครื่องบิน ตามหลักเกณฑ์ใหม่ กพท.เตรียมบังคับให้ผู้ควบคุมโดรนต้องผ่านการสอบมาตรฐานเหมือนนักบิน และมีการกำหนดขอบเขตจัดการบินทางอากาศ

รวมทั้งการให้บริการดานการแพทย์ฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ หรือ HEMS ปัจจุบันไทยมีนักท่องเที่ยวขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าเฮลิคอปเตอร์มีมาตรฐานเพียงพอที่จะทำให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัย กพท.เตรียมออกหลักเกณฑ์ควบคุมมาตรฐาน แต่จะเปิดกว้างให้เฮลิคอปเตอร์เพื่อบริการทางการแพทย์ สามารถบินให้บริการไปที่ใดก็ได้ ไม่ควบคุมจำกัดพื้นที่เหมือนกฎหมายเดิม

โดยขณะนี้ได้ออกกฎระเบียบไปแล้ว คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ 1 มี.ค.2563 ทำให้เฮลิคอปเตอร์เติบโตได้มากกว่านี้ และเป็นอีกธุรกิจที่ขยายตัวมากขึ้น

“มาตรฐานการโดรนที่เราจะบังคับใช้ ก็จะช่วยคัดกรองผู้ถือใบอนุญาตจากที่มี 1.6 หมื่นคน เหลือเฉพาะในส่วนที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดโดรนกลายเป็นตลาดที่มีการแข่งขัน มีประสิทธิภาพ และทำให้เอกชนอยากเข้ามาแข่งขันทำตลาดนี้ให้โตมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มเล็งเห็นแล้วว่ามีเอกชนนำโดรนไปใช้เพื่อการพาณิชย์มากขึ้น อย่างยามาฮ่า มอเตอร์ มาขอจดใบอนุญาต AOL ใช้โดรนเพื่อธุรกิจโปรยสารเคมีทางการเกษตร”