ยกระดับป้องกันฝุ่นพิษ ชง ครม. สั่ง 5 หน่วยงานกำหนดมาตรการเข้ม

ยกระดับป้องกันฝุ่นพิษ ชง ครม. สั่ง 5 หน่วยงานกำหนดมาตรการเข้ม

คณะกรรมการควบคุมมลพิษ ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขฝุ่นพิษ เสนอ ครม. สั่ง 5 หน่วยงานกำหนดมาตรการเข้ม

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 63 ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมมลพิษ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีมติเพื่อยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM2.5 ในสถานการณ์วิกฤต และให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ม.ค. เพื่อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติโดยเร่งด่วน โดยข้อเสนอมีต่อไปนี้

สํานักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปฏิบัติต่อไปนี้ 1. ขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกดีเซลเข้า กทม. จากวงแหวนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก 2. ออกข้อบังคับให้รถบรรทุกดีเซลเข้าเขตพื้นที่ชั้นในของ กทม. ได้เฉพาะวันคู่ ตามช่วงเวลาที่กำหนด ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563 3. ยกระดับความเข้มงวดในการตรวจจับรถยนต์ควันดำ และ 4. ออกประกาศห้ามใช้รถยนต์ที่มีมลพิษเกินมาตรฐาน

กรมการขนส่งทางบก ให้ปฏิบัติต่อไปนี้ 1. ตรวจสอบรถโดยสาร (ไม่ประจำทาง) ทุกคัน โดยเพิ่มชุดตรวจเป็น 50 ชุด ใน 50 เขต 2. ร่วมกับ บก.จร. ยกระดับความเข้มงวดการตรวจจับควันดำรถโดยสารและรถบรรทุก และออกคำสั่งห้ามใช้รถ

กรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้ปฏิบัติต่อไปนี้ 1. ตรวจสอบโรงงานที่มีนัยสำคัญทำให้เกิดฝุ่นละออง หากเกินมาตรฐานให้สั่งหยุดปรับปรุง 2. ขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมลดกำลังการผลิตในช่วงวิกฤตสถานการณ์ฝุ่นละออง 3. เพิ่มแรงจูงใจสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ให้ความร่วมมือในการลดกำลังการผลิต

กรุงเทพมหานคร ให้ปฏิบัติต่อไปนี้ 1. ควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า รวมถึงการก่อสร้างประเภทอื่น 2. เข้มงวดไม่ให้มีการเผาในที่โล่งโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีบทลงโทษทั้งจำและปรับ

จังหวัดต่างๆ ยกเว้น 9 จังหวัดภาคเหนือ ให้ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นห้ามการเผาขยะมูลฝอย หญ้า ตอซังหรือเศษวัสดุทางการเกษตร หรือสิ่งอื่นใดไม่ว่าจะเป็นที่ดินตนเองหรือที่สาธารณะ และ เข้มงวดการควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้างต่างๆ

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาทำงาน รถยนต์ของส่วนราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคัน ลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 ppm (น้ำมันเกรดพรีเมี่ยม) สนับสนุนการให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 5 ปี สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนในเรื่องสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5