ปรับลดลง

ปรับลดลง

Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ ปรับลดลง แนวรับ 1580 / 1572 จุด แนวต้าน 1593 / 1600 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) Sell on fact จากการเซ็นสัญญาเฟสแรกระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และวิตกรายละเอียดของสัญญาอาจไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาด (Bloomberg เผยสหรัฐฯ ไม่ปรับลดภาษี จนกว่าหลังการเลือกตั้งและรอดูจีนปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่) 2) มาตรการผ่อนคลายการแข็งค่าของเงินบาท คาดทาได้ชั่วคราว เนื่องจากระยะยาวไทยยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัด (คาดเกินดุลปีนี้ 6.1% จาก 5.6% ของ GDP) 3) ฝ่ายค้านเตรียมยื่นออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี

ประเด็นสำคัญวันนี้: USA-การเซ็นสัญญาการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯ กับจีน, Earnings-Bank of America, Goldman Sachs

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยย่อตัว: หลังช่วงเช้าขึ้นไปทาจุดสูงสุดของวันที่ 1592.84 จุด +6.68 จุด แต่ดัชนีฯ ภาคบ่ายอ่อนตัวมาแกว่งตัวในกรอบ 1580 - 1587 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1586.90 จุด +0.74 จุด +0.05% วอลุ่ม 6.03 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตฯ ที่ปรับขึ้นสูงสุด คือ มิเดีย +1.29% พาณิชย์ +0.74% Property Fund & REIT +0.69% ส่วนกลุ่มที่นาลง คือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -2.03% รับเหมาฯ -1.06%

- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: DJ +0.11% S&P500 -0.15% Nasdaq -0.24% รายงานกาไรดีกว่าคาดของกลุ่มการเงินช่วยหนุนช่วงแรก ก่อนที่จะปรับลดลงจากข่าวท้ายตลาดว่าสหรัฐฯ ยังคงเก็บภาษีจากจีนไปจนกระทั่งหลังการเลือกตั้ง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกรับข่าวจีนกับสหรัฐฯ เตรียมเซ็นสัญญาการค้าเฟสแรก DAX +0.04% CAC40 +0.08% FTSE +0.06%

+/- ราคาน้ำมันดิบฟื้นแต่ทองคำร่วงต่อ: WTI +0.15 ปิดที่ USD58.23/บาร์เรล Brent +USD0.29 ปิด USD64.49/บาร์เรล ตลาดน้ำมันดิบฟื้นตัวครั้งแรก หลังร่วง 5 วัน เป็นผลจากข่าวจีนนำเข้าน้ำมันดิบปี 2019 แตะระดับ 506 ล้านตัน +9.5% ส่วนทองคำร่วงต่อ -USD6 ปิด USD1544.60/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Trade war: Bloomberg รายงานภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากจีนในปัจจุบันยังคงมีผลบังคับใช้ จนหลังการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. โดยการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมในวันข้างหน้า จะขึ้นอยู่กับว่าจีนจะปฏิบัติตามเงือนไขที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการค้าเฟสแรกหรือไม่

+/- Earnings Results: จับตาผลกำไรกลุ่มการเงินสหรัฐฯ วันนี้ Goldman Sachs, BofA ส่วนวานนี้กำไรกลุ่มการเงินดีกว่าคาด Citigroup กำไรต่อหุ้น USD1.9 (Vs คาด USD1.84) JP Morgan USD2.57 (Vs คาด USD2.36) ส่วนกลุ่มการเงินไทย จับตารายงานกำไร KTC ส่วนวานนี้ TISCO กำไรปี 2019 ตามคาดที่ 7.27 พันล้านบาท (Vs ปี 2018 ที่ 7.01 พันล้านบาท) รอลุ้นปันผล (คาด 7.50 บาท)

+ China: ดุลการค้าเดือน ธ.ค. เกินดุลน้อยกว่าคาดการณ์ +USD46.79bn เพราะนำเข้าสูงกว่าคาด 16.3% YoY แม้ส่งออก +7.6% YoY (Vs ตลาดคาดดุลการค้า +USD48bn ส่งออก 3.2% YoY นาเข้า +9.6% YoY )

- ไทย: ธปท. ระบุเงินบาทที่แข็งค่าในปี 2019 เกิดจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นหลักไม่ได้เกิดจากการเก็งกำไรของนักลงทุนต่างชาติ เพราะพบว่านักลงทุนต่างชาติมีเงินทุนไหลออกในช่วง 2H19

+ ไทย: ครม. มีมติให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบฯ ปี 2020 ให้ได้ประมาณ 1 ล้านล้านบาท ภายในสิ้นเดือน มี.ค. 2020 แบ่งเป็นงบประจำ 7.7 แสนล้านบาท และงบลงทุน 2.2 แสนล้านบาท

- ไทย: ครม.เห็นชอบให้ควบรวมกิจการ ทศท. กับ กสท. เป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติภายใน 6 เดือน โดยคลังถือหุ้น 100% และเห็นชอบให้ประมูลคลื่น 5G

- สวิตเซอร์แลนด์: สหรัฐฯ ประกาศสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในกลุ่มประเทศ Monitoring List ในฐานะประเทศที่บิดเบือนค่าเงิน

กลยุทธ์: Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: INTUCH TISCO STEC

หุ้นโมเมนตัมบวก: กลุ่มโรงพยาบาล (ประกันสังคมปรับค่าเหมาจ่ายรายหัวเพิ่ม 9% ค่าโรคร้ายแรง 16%) EA BGRIM JMT BEC CBG FN BGC CHG PORT MONO VNT GLAND

หุ้นโมเมนตัมลบ: DELTA TOP IRPC SPRC SPALI ESSO SHR

Derivatives: แนะ Wait&see หลังปิด Long ทากาไรไปแล้ว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)