RS - ถือ

RS - ถือ

ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้สูง

Event

งานประชุม (RS-Entertainmerce Decoded).

Impact

ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2563 ไว้ที่ 5.2 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 17% CAGR

RS ตั้งเป้ารายได้ปี 2563 ไว้ที่ 5.25 พันล้านบาท ซึ่ง 60% จะมาจากธุรกิจการค้า (RS Mall) 25% จากจะมาจากธุรกิจทีวีดิจิตอล (Ch.8) และรายได้จากธุรกิจวิทยุ ดนตรี และคอนเสิร์ตอีก 15% โดย RS จะเพิ่มรายได้ธุรกิจการค้าด้วยการ  i) เพิ่มชนิดสินค้าอีก 30 SKUs/เดือน สำหรับไลน์สินค้าที่มีอยู่แล้ว (เครื่องใช้ในบ้าน สินค้าเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม) ii) นำเสนอไลน์สินค้าประเภทใหม่ๆ อย่างเช่นเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม การท่องเที่ยวและการบริการ เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ iii) เพิ่มยอดขยายสินค้าทางโทรทัศน์จากการผนึกพันธมิตรกับผู้ประกอบการทีวีช่องอื่น (ไทยรัฐทีวี เวิร์คพอยท์ทีวี อมรินทร์ ทีวี) และ  iv) ให้ความสนใจกับช่องทางการขายอื่น ๆ มากขึ้น อย่างเช่น เว็บไซต์ และสื่อโซเชียล ทั้งนี้ RS ตั้งเป้าจะวางจำหน่ายยาสีฟันเกรดพรีเมี่ยม (สินค้าใหม่) ใน 3Q63 แต่ยังไม่ได้รวมยอดขายสินค้าตัวนี้ในเป้ารายได้ของบริษัทปี 2563

เป้ารายได้ของบริษัทค่อนข้างท้าทาย

เรามองว่าเป้ารายได้ปี 2563 ของ RS ค่อนข้างท้าทายเมื่อเทียบกับสมมติฐานรายได้ของเราที่ 4.1 พันล้านบาท เนื่องจาก i) ธุรกิจทีวีดิจิตอลกำลังอยู่ในขาลง ซึ่งคาดจะกดดันการเติบโตของยอดขายสินค้าทางโทรทัศน์ของบริษัท ii) การแข่งขันในธุรกิจโฮมชอปปิ้งที่รุนแรง iii) คาดว่า GDP ที่โตไม่มากนักในปี 2563 จะกดดันทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งรวมถึงการซื้อสินค้าของ RS ด้วย และ iv) ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดของ RS มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 3Q63 เป็นต้นไป เพื่อโปรโมตสินค้ายาสีฟัน ของบริษัทซึ่งคาดจะกดดันผลประกอบการใน 2H63

คงประมาณการกำไรปี 2562-63 เอาไว้ตามเดิม

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-63 เอาไว้ที่ 403 ล้านบาท (-22% YoY) และ 533 ล้านบาท(+32% YoY) ตามลำดับ โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2562 จะลดลงเนื่องจากรายได้จากธุรกิจสื่อลดลงในขณะที่รายได้จากธุรกิจการค้าทรงตัว สำหรับปี 2563 เราคาดว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นจากยอดขายสินค้าที่
เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าใหม่ๆ และช่องทางใหม่ๆ ทั้งนี้เราคาดว่า EPS จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่ากำไรสุทธิเนื่องจากคาดว่าจะมีการใช้สิทธ์ิแปลง RS-W3

Valuation & Action

เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2563 ไว้ที่ 14.30 บาท (PER 31.2x เท่ากับค่าเฉลี่ยของกลุ่มการพาณิชย์) และคงคำแนะนำ "ถือ" โดยเรายังไม่ได้รวม upside ในปี 2563 จากโอกาสในการเข้าลงทุนในบริษัทผู้ผลิตสินค้า OEM และรายได้จากสินค้าใหม่ (ยาสีฟัน) เข้าไว้ในประมาณการของเรา

Risks

รายได้จากธุรกิจการค้าต่ำเกินคาด