ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขานรับคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขานรับคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคาร(14ม.ค.)ปรับตัวขึ้น หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 5 วัน โดยได้ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ราคา 58.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซ็นต์ ปิดที่ 64.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เวลา 11.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.30 น.ตามเวลาไทย โดยเชิญแขกราว 200 คนเข้าร่วมพิธีดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอย่างจำกัด หลังสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านได้ผ่อนคลายลง

นายโจฮัน เบนิกนี ประธานบริษัทเจบีซี เอเนอร์จี กล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจดิ่งลงแตะระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล หากระบอบการปกครองของอิหร่านล่มสลายลง พร้อมให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า อิหร่านกำลังเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ โดยชาวอิหร่านพากันเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลอิหร่านออกมายอมรับว่า กองทัพได้ยิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกโดยไม่เจตนา ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องจำนวน 176 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยผู้โดยสารบนเครื่องส่วนมากเป็นชาวอิหร่านและชาวแคนาดาเชื้อสายอิหร่าน


นอกจากนี้ เศรษฐกิจอิหร่านยังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน


นายเบนิกนี กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงผู้นำในอิหร่านจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาพลังงาน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอย่างมากที่จะทรุดตัวลงแตะระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากอิหร่านสามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันในตลาดได้มากถึง 1.5 ล้านบาร์เรล หรืออาจถึง 2 ล้านบาร์เรลในเวลาเพียงไม่นาน