ทรัมป์เชียร์ประท้วงอิหร่าน ‘ดีหรือเสีย?’

ทรัมป์เชียร์ประท้วงอิหร่าน ‘ดีหรือเสีย?’

ทรัมป์เชียร์ประท้วงอิหร่าน ‘ดีหรือเสีย?’ หลังทวีตข้อความเมื่อวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) เตือนอีกครั้งไม่ให้รัฐบาลเตหะราน “ฆ่า” ผู้ประท้วง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทวีตข้อความเมื่อวันอาทิตย์ (12 ม.ค.)ไม่ได้แคร์เลยสักนิดว่าอิหร่านจะเจรจากับสหรัฐหรือไม่ พร้อมเตือนอีกครั้งไม่ให้รัฐบาลเตหะราน “ฆ่า” ผู้ประท้วง เล่นประกาศกันออกนอกหน้าแบบนี้นักวิชาการหลายคนมองว่า น่าจะเป็นผลร้ายต่อผู้ประท้วงมากกว่า

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความ เมื่อวันอาทิตย์ในภาษาอังกฤษและเปอร์เซีย ระบุ “ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเสนอวันนี้ว่า การคว่ำบาตรและประท้วงทำให้อิหร่านอึดอัดจำต้องมาเจรจา จริงๆ แล้วผมไม่แคร์หรอกว่าพวกเขาจะเจรจาหรือไม่ แล้วแต่พวกเขาเลย แต่ต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์และไม่ฆ่าผู้ประท้วงของคุณ”

ชาวอิหร่านประท้วงทั่วประเทศมาตั้งแต่วันเสาร์ (11 ม.ค.) หลังรัฐบาลยอมรับว่า กองทัพเผลอยิงเครื่องบินโดยสารยูเครนที่ออกจากสนามบินเตหะรานตก ผู้โดยสารและลูกเรือ 176 คนเสียชีวิตทั้งหมด ก่อนหน้านั้นรัฐบาลปฏิเสธมาตลอดพอมายอมรับสาธารณชนจึงเดือดดาลออกมาประท้วงเป็นจำนวนมาก คลิปวีดิโอบนโซเชียลมีเดียเผยภาพมวลชนตะโกน “เผด็จการจงตายซะ” หมายถึงอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน

อ่านข่าว-พิพาท 'อิหร่าน-สหรัฐ' เดือดแค่ไหน อ่านจบได้ในที่เดียว! 

157896142437

อย่างไรก็ตาม ซีโดมีร์ เนสโตโรวิก อาจารย์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ วิทยาลัยธุรกิจเฟรนช์เอสเซคในสิงคโปร์ เผยกับเว็บไซต์ซีเอ็นบีซี ออกอาการเป็นห่วงว่า การที่ทรัมป์แสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้ประท้วงอาจไม่ใช่เรื่องดีกับพวกเขา

“ผมไม่เชื่อว่าการแทรกแซงของประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องนี้จะมีประโยชน์สำหรับสหรัฐ เพราะเป็นการประท้วงภายในประเทศ ยิ่งคุณเชื่อถือพวกเขามาก ยิ่งคุณสนับสนุนพวกเขามาก จะยิ่งแย่เพราะกรณีนี้รัฐบาลอิหร่านจะมองว่าเป็นการวางแผนของต่างชาติ ให้สหรัฐแทรกแซงกิจการภายในของอิหร่าน ผมจึงไม่คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะดี”

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เตือนรัฐบาลอิหร่านว่าโลกกำลังจับตาดูอยู่ และบอกกับประชาชนอิหร่าน “ผมอยู่ข้างคุณตั้งแต่เริ่มเป็นประธานาธิบดี และรัฐบาลของผมจะอยู่ข้างคนต่อไป”

โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว แสดงความเห็นกับฟ็อกซ์นิวส์ในวันเดียวกันถึงข้อความที่ทรัมป์ทวีต

“ผมคิดว่าแรงกดดันสูงสุดใช้ได้ผล อิหร่านกำลังหายใจไม่ออก และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าสู่โต๊ะเจรจา”

โอไบรอันกล่าวถึงการที่รัฐบาลทรัมป์คว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ หลังสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อปี 2561 ที่วอชิงตันกล่าวบ่อยครั้งว่าเป็นการกดดันสูงสุด หวังใช้การคว่ำบาตรทำให้เศรษฐกิจอิหร่านง่อยเปลี้ย

“สิ่งที่จะทำให้พวกเขามาเจรจาได้คือแรงกดดันทางเศรษฐกิจ และเมื่อนักศึกษาออกไปตะโกน เผด็จการจงตายซะ เมื่อชาวอิหร่านหลายพันคนลงถนนประท้วง นั่นคือการกดดันที่ทำให้พวกเขาต้องมาเจรจา” ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวย้ำกับฟ็อกซ์นิวส์

ด้านนักลงทุนที่จับตาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนมาตลอด กลายเป็นว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านน่าจะดึงความสนใจของนักลงทุนไปแทน

อลาสแตร์ นิวตัน ผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมือง “อลาวันบิสสิเนสแอดไวซอรี” อดีตทูตอังกฤษ เผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ปีนี้ประเด็นอิหร่านกำลังทวีความสำคัญในสายตานักลงทุนมากกว่าเรื่องจีนกับสหรัฐ"

นักวิเคราะห์กล่าวพร้อมคาดการณ์ว่า ปีนี้อิหร่านจะตอบโต้มากขึ้น หลังจากยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอิรักที่ทหารสหรัฐประจำการอยู่เมื่อสัปดาห์ก่อนความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐสังหารนายพลกาเซ็ม โซไลมานีของอิหร่าน

157896148292

นิวตันไม่ได้กล่าวว่า อิหร่านจะแก้แค้นแบบใด แต่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวต่อไปของรัฐบาลเตหะราน เช่น การรุกรานโดยใช้กลุ่มตัวแทนในภูมิภาค และการโจมตีไซเบอร์

นิวตันกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์อันเลวร้ายระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน แค่ก้าวจากเลวร้ายไปสู่ความเลวร้ายยิ่งกว่า โดยไม่มีสัญญาณว่าทั้งสองฝ่ายจะหันไปใช้การทูตแก้ปัญหาความขัดแย้งได้

ความเห็นของนักวิเคราะห์รายนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความ ไม่สนว่าอิหร่านจะตกลงเจรจาหรือไม่

“เตหะรานเองก็ไม่อยากเจรจากับทรัมป์เหมือนกัน อิหร่านหวังว่าทรัมป์จะแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ แล้วได้รัฐบาลเดโมแครตมาแก้ปัญหา”