ทักษะมนุษย์ในโลก AI กับ 'การศึกษา' ที่ต้องTransform 

ทักษะมนุษย์ในโลก AI กับ 'การศึกษา' ที่ต้องTransform 

 AI กำลังจะแทนที่มนุษย์ 10 อาชีพที่ใกล้จะตกงาน อยู่อย่างไรในวันที่ AI เข้ามาแทนที่ ฯลฯ เหล่านี้คือหัวข้อสนทนาที่เราพูดกันบ่อยขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่า เราได้เข้าสู่ยุค“ปัญญาประดิษฐ์” และค่อนข้างกังวลกับสิ่งนี้

ทว่า ในความเป็นจริงแล้วมันก็ไม่ได้ดูแย่ไปเสียทั้งหมด ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์และการสื่อสาร สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) นายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AI) บอกว่า เป็นความจริงที่ว่าAIกำลังถูกพัฒนาและมีผลทำให้ทักษะบางอาชีพค่อยๆ ปิดตัวลง แต่ขณะเดียวกันAIก็เปิดประตูแห่งโอกาสอีกบานออก ฉะนั้น การอยู่รอดในยุคAIจึงขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง ที่จะต้องมีทักษะสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

คำถามคือ แล้วทักษะแบบใดที่โลกยุคใหม่ต้องการสิ่งที่ต้องเข้าใจเป็นลำดับแรกก็คือAIมีการทำงานหลายรูปแบบ อาจแบ่งออกเป็น3ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่1. รูปแบบการทำงานแบบอัลกอริทึม (Algorithm)ซึ่งเป็นกระบวนการนำเข้าและหาผลลัพธ์ที่เป็นขั้นตอนชัดเจน2. การทำงานแบบเทคโนโลยีเสริมศักยภาพของมนุษย์(Augmentation)ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับมนุษย์และเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดระยะเวลาการทำงานลง3. การทำงานแบบอัตโนมัติ (Autonomy)ซึ่งAIจะมีบทบาทแทนที่มนุษย์ คือสามารถตัดสินใจแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด

     “ทุกวันนี้ ทั่วโลกยังคงใช้งานAIในสองประเภทแรก ส่วนการให้AIเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจแทนมนุษย์หรือทำงานแทนมนุษย์ทั้งหมดนั้น คงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร”ดร.ธนารักษ์ ระบุ

แม้ว่าขณะนี้ บทบาทของAIจะเป็นทำหน้าที่หนุนเสริมการทำงานของมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ หากแต่จุดแข็งของAIอันประกอบด้วย ความชัดเจน ความแม่นยำ และการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานมนุษย์ โดยเฉพาะในกลุ่มงานที่ต้องทำอย่างซ้ำๆ และประมวลผลไม่ซับซ้อน

157893432350

แน่นอนว่า ประตูที่กล่าวถึงข้างต้นกำลังถูกปิดลง แต่ประตูอีกบานกำลังค่อยๆ ถูกแง้มออก โดยโอกาสที่เปิดกว้างในยุคAIคืองานที่มีลักษณะการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ทักษะทางสังคมทักษะด้านจิตวิทยาการอธิบาย การประสานงาน การตัดสินใจ การประเมินและวิเคราะห์ระบบ การใช้เหตุผล ตลอดจนการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน

“ทักษะเหล่านี้เป็น Soft Skill ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลายๆ อย่าง เป็น Multi Skill ที่ต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ทักษะอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ดังนั้นที่สำคัญที่สุดก็คือ มนุษย์ต้องปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่แทบจะตลอดเวลา”อาจารย์ธนารักษ์ ระบุ

นายกสมาคมAIวิเคราะห์เทรนด์ว่างานในโลกยุคใหม่จะเน้นความสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่เครื่องจักรผลิตออกมาเป็นมาตรฐานเดียวกัน การทำงานจึงจะไม่ใช่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมแบบเดียวกันหมด หากแต่จะมีลักษณะเป็นหน่วยย่อย เป็นธุรกิจขนาดเล็ก(SMEs)สตาร์ทอัพซึ่งเชื่อมต่อกันผ่านเทคโนโลยี มีความคล่องตัวสูง พร้อมจะปรับจะเปลี่ยนเปลี่ยนได้ทุกสถานการณ์

เมื่อลักษณะของแรงงานในอนาคตเปลี่ยนแปลงไป สถาบันการศึกษาเองก็จำเป็นต้องปรับตัวตามเช่นกัน ตัวอย่างเช่นที่สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้พัฒนาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับปัจจุบัน ไม่ยึดติดกับรูปแบบห้องเรียนเดิม เช่น การทำE-Learningเพื่อลดข้อจำกัดในการเดินทาง เรียนเวลาไหนก็ได้ รวมถึงการเพิ่มภาคปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนได้ทดลองทำจริง แก้ปัญหาจริง

“สิ่งสำคัญคือสถาบันการศึกษาต้องช่วยเป็นโค้ชให้ผู้เรียนค้นพบTalent (ความสามารถ)รวมถึงความเชี่ยวชาญของตัวเอง เพราะเราเชื่อว่าถ้าเขาเจอสิ่งที่ถนัดหรือสิ่งที่ชอบเพียงอย่างหนึ่ง แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดก็จะประสบผลสำเร็จได้ ซึ่งน่าจะดีกว่าการเรียนได้เกรดAทุกวิชา แต่ไม่รู้ว่าจบแล้วจะไปทำอะไร สุดท้ายก็จะจมหายเข้าไปในตลาดแรงงาน”อาจารย์ธนารักษ์ ระบุ

อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศฯ กล่าวต่อไปว่า การเรียนเป็นแบบCustomize (แบบเฉพาะเจาะจง)เพื่อให้ผู้เรียนค้นหาเส้นทางประสบความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเอง มีการจัดพื้นที่ Co-working spaceให้เกิดชุมชนความรู้ เกิดการแชร์ข้อมูล ที่สำคัญเมื่อเรียนจบไปแล้วก็ต้องเข้าใจทั้งเทคโนโลยี การตลาด และธุรกิจ เป็นสิ่งสถาบันการศึกษาทุกแห่งต้องให้ความสำคัญในการติดอาวุธให้บัณฑิต ฉะนั้นในยุคที่AIเชื่อมโยงกับทักษะแรงงาน ทางเดียวที่มนุษย์จะอยู่รอดคือการปรับตัวให้เท่าทัน และที่เราใช้AIตัวของAIก็ยังต้องพึ่งพามนุษย์เช่นกันทั้งหมดนี้ จึงเป็นโอกาสของทุกคนที่มีความพร้อม