หุ้นก่อสร้างฟื้นชีพ รับงานประมูลแสนล้าน

หุ้นก่อสร้างฟื้นชีพ  รับงานประมูลแสนล้าน

รอบปี 2562 ที่ผ่านมากลุ่มที่มีปัจจัยจากภาคการเมืองมากที่สุดหนีไม่พ้น “หุ้นรับเหมาก่อสร้าง” เพราะนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งเดือนมี.ค. จนมาถึงการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลทำให้เกิดความคาดหวังว่าหุ้นกลุ่มนี้ได้ประโยชน์จากโครงสร้างก่อสร้างขนาดใหญ่ตามมา

    หากแต่ปัญหางบประมาณ ปี 2563 ที่ค้างท่อมาตั้งแต่ต.ค.2562 ลากยาวมาจนถึงต้นปี 2563 ทำให้หุ้นรับเหมาก่อสร้างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า จากงานประมูลขนาดใหญ่ต้องเลื่อนออกไป ส่งผลทำให้ตัวเลขยอดงานในมือ (backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท ลดลง 18% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

   โครงการที่เป็นที่หมายตาของประกอบการจะอยู่ในกระทรวงคมนาคม เป็นส่วนใหญ่เพราะมีงานมูลค่าแสนล้านให้รอประมูลอีกจำนวนมาก เฉพาะแค่งานก่อสร้างรถไฟฟ้าถือว่าเป็นงานไฮไลต์ของงบประมาณปี 2563 ว่าได้

    ดังนั้นการเดินหน้าผ่านความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบปี 2563 วงเงิน 3.3 แสนล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการนำเข้าพิจารณาของ สว. ภายในสัปดาห์นี้จากนั้นจะนำทูลเกล้าถวายภายในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณน่าเกิดขึ้นภายในเดือน ก.พ. นี้ทันที

   ตามโครงการที่เตรียมจะออกมาให้เอกชนประมูล ยังเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ เป็นตัวหลัก จากที่ปลายปี 2562 มีการเซ็นสัญญาไปแล้วกับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่มซีพีคว้าสัญญานี้ไปได้แม้จะยืดเยื้อเกือบปีก็ตาม

   รวมทั้งการพลิกสถานการณ์ของกลุ่มธนโฮลดิ้ง ประกอบด้วยกลุ่ม ซีพี, บมจ.อิตาเลียนไทย (ITD), บมจ. ช.การช่าง (CK), บริษัทย่อยบมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) และบมจ.โอเรียนท์ ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ศาลพิพากษาให้สามารถเข้าร่วมประมูลสนามบินอู่ตะเภาได้หลังส่งเอกสารล่าช้า 9 นาที ส่งผลทำให้ต้องมาดูว่าซองที่ 3 เป็นซองราคาของกลุ่มนี้จะเสนอที่เท่าไร

    จากก่อนหน้านี้กลุ่ม BBS ประกอบไปด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS), บมจ.การบินกรุงเทพ (BA), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) เปิดซองราคาไปแล้ว รวมทั้งกลุ่มที่ 3 Grand Consortium นำโดย บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND)

   โครงการดังกล่าวมูลค่าสูง 2.9 แสนล้านบาท ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าตกเป็นของใคร รวมทั้งโครงการอื่นๆในอีอีซี ยังมีท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท ล้วนแต่รอการประมูลในปีนี้

   ด้านโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างเตรียมพาเหรดประมูลอย่างคึกคัก เส้นที่น่าจับตามองคือ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ 1.2 แสนล้านบาท น่าจะเห็นความคืบหน้าได้มากที่สุด ตามมาด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการร่างเกณฑ์ประมูล 1 แสนล้านบาท

   รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนส่วนต่อขยาย รังสิต-ธรรมศาสตร์ 6.5 พันล้านบาทส่วนขยายไปตลิ่งชัน-ศาลายา 1 หมื่นล้านบาท และตลิ่งชัน-ศิริราช อีก 6.6 พันล้านบาท ปิดท้ายที่รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางชื่อ-หัวลำโพง และ พญาไท-หัวหมาก มูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท

    อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวด้านผู้ประกอบการรายใหญ่มองว่ามีโอกาสที่จะเลื่อนออกไปอีก รวมทั้งความไม่แน่นอนของเกณฑ์การประมูล ทำให้ผู้ประกอบการคาดเม็ดเงินที่จะออกมาให้ประมูลอาจจะไม่ถึง 7 แสนล้านบาท

    ด้านมุมของ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง “มากกว่าตลาดฯ” จากการที่สภาฯ ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 โดยคาดโครงการที่จะเริ่มเดินหน้าในปีนี้ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก,  รถไฟฟ้าสีแดงเข้ม และรถไฟทางคู่เฟส 2 อีกราว 2-3 เส้นทาง เลือก บมจ. ซีฟโก้ (SEAFCO) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม

   โดยประเมินแนวรับ 6.05 บาท แนวต้าน 6.35-6.45 บาท (Stop loss 5.95 บาท) และราคาเป้าหมาย 7.90 บาท ด้วยมูลค่าไม่แพงด้วย PE ปี 2563 ที่ 12.5 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 13.5 เท่า