ปรับลดลง

ปรับลดลง

Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ ปรับลดลง แนวต้าน 1590 / 1595 จุด แนวรับ 1568 / 1565 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) แรงขายทากาไร (Sell on fact) หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าทาสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง รับข่าวดีสงครามการค้าเฟสแรกจีนกับสหรัฐฯ ความตึงเครียดตะวันออกกลางผ่อนคลาย ฯลฯ 2) รายงานผลกาไรบจ.สหรัฐฯ จะเริ่มทยอยประกาศสัปดาห์นี้ นาโดยกลุ่มการเงิน คาดผู้จัดการกองทุนต่างชาติจะรอความชัดเจนผลกาไรก่อนปรับพอร์ตลงทุนรอบใหม่ 3) การลงทุนของต่างชาติต่อตลาดหุ้นไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะมีแรงขายเพิ่มขึ้น หากผลกาไรบจ. และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง

ประเด็นสำคัญวันนี้: UK-วุฒิสภาพิจารณาร่างกฎหมาย Brexit , Taiwan-ผลเลือกตั้งปธน.

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันศุกร์

+ ตลาดหุ้นไทยแกว่งออกด้านข้าง: ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1573-1584 จุด ก่อนมาปิดที่ 1580.63 จุด +0.99 จุด +0.06% วอลุ่ม 5.16 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตฯ ที่ปรับขึ้นสูงสุด คือ เกษตรฯ +1.06% อสังหาฯ +0.97% ส่วนกลุ่มอุตฯ ที่ปรับลง ได้แก่ ICT -1.03% ปิโตรฯ -0.65%

- ตลาดหุ้นโลกกลับมาปรับลดลง: แรงขายทำกำไรและรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นโลก DJ -0.46% S&P500 -0.29% Nasdaq -0.27% DAX -0.09% CAC40 -0.09% FTSE -0.14%

- ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อแต่ทองคำฟื้นตัว: WTI -USD0.52 ปิดที่ USD59.04/บาร์เรล Brent -USD0.39 ปิด USD64.98/บาร์เรล หลังความตึงเครียดตะวันออกกลาง ผ่อนคลาย ส่วนทองคำฟื้นตัว +USD5.8 ปิด USD1560.1/ออนซ์ จากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาอ่อนค่า

ประเด็นสำคัญ

- USA: การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค. ต่ากว่าคาดการณ์ โดยเพิ่มขึ้นเพียง 1.45 แสนตำแหน่ง (Vs คาด 1.6 แสนตำแหน่ง) และมีการปรับลดการจ้างงานเดือน ต.ค.-พ.ย. ลงเป็น 152k และ 256k (Vs เดิม 156k และ 266k) ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้นเพียง +0.1% MoM (Vs เดือน พ.ย. +0.3% MoM) ส่วนอัตราว่างงานคงที่ที่ 3.5%

- US-IRAN: อิหร่านยอมรับยิงเครื่องบินโดยสารยูเครนโดยไม่ตั้งใจ ขณะที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรครั้งใหม่เพิ่ม เน้นภาคก่อสร้าง การผลิต เหมืองแร่ และอุตฯ สิ่งทอ

+/- USA: สหรัฐฯ เริ่มทยอยประกาศงบการเงิน 4Q19E ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป โดยจะมี 3 บริษัทจดทะเบียนที่คำนวณในดัชนี DJIA รายงานผลกำไร ได้แก่ JP Morgan, Goldman Sachs, United Health

+ Fund Flow: ต่างชาติกลับมามีเงินทุนไหลเข้า 6 ชาติในเอเชีย และเป็นการซื้อสัปดาห์ที่ 4 ในรอบ 5 สัปดาห์ จำนวน +USD69mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า -USD39mn) โดยขายไต้หวัน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และซื้อเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ส่วนตลาดหุ้นไทยถูกซื้อเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 8 สัปดาห์ จำนวน +USD69mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า -USD39mn) ทาให้ 2020E YTD มีแรงซื้อสะสม +USD74mn (Vs ปี 2019 ขาย USD1,496mn)

- ไต้หวัน: ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันได้คนเดิม นางไช่ อินเหวิน ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย โดยได้คะแนนเกือบ 8.2 ล้านคะแนน เทียบคู่แข่งได้เพียง 5.5 ล้านคะแนน สะท้อนคนไต้หวันไม่ต้องการรวมกับจีน

+ ไทย: สภาผู้แทนฯ มีมติเห็นชอบ 253 เสียง ผ่านร่างงบประมาณปี 2020 วาระ 3 เมื่อ วันเสาร์เย็น ก่อนส่งให้วุฒิสภาพิจารณาใน 20 วัน

- ไทย: ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ต่ำสุดรอบ 68 เดือน และลดลงต่อเนื่องเป็น 68.3 จาก 69.1 ในเดือน พ.ย. เพราะกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง

กลยุทธ์: Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: INTUCH TISCO STEC

หุ้นโมเมนตัมบวก: GGC SMT ICHI GLOBAL BAM RATCH BGRIM TISCO WHA SVOA

หุ้นโมเมนตัมลบ: KCE THANI ESSO VNT

Derivatives: แนะถือสถานะ Long S50H20 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)