แนวโน้ม"ตลาดหุ้น"ไทยรายสัปดาห์ (13 ม.ค.63)

แนวโน้ม"ตลาดหุ้น"ไทยรายสัปดาห์ (13 ม.ค.63)

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย (13-17 ม.ค.): แกว่งขึ้น ปัจจัยภายในดูดีขึ้นบ้าง

มุมมองตลาดหุ้นสัปดาห์นี้: เรามองดัชนี SET สัปดาห์นี้ (13-17 มกราคม) เป็นบวกปานกลาง เนื่องจากปัจจัยมหภาคโลกมีพัฒนาการที่สำคัญ อย่างเช่น i) สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีเสถียรภาพมากขึ้น และ ii) การลงนามในข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐน่าจะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีให้กับสินทรัพย์เสี่ยง สำหรับปัจจัยภายในประเทศ สภาได้อนุมัติ พรบ. งบประมาณปี 2563 อย่างเป็นทางการแล้วโดยมี ส.ส. จากพรรคฝ่ายค้าน 7 รายที่ลงมติเห็นชอบกับงบประมาณ ซึ่งเรามองว่าเป็นสัญญาณดีเพราะ ส.ส. กลุ่มนี้อาจจะหันมาออกเสียงสนับสนุนฟากรัฐบาลได้ในอนาคต  นอกจากนี้ การที่ พรบ. งบประมาณผ่านความเห็นชอบของสภาก็จะทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ อย่างเช่น รับเหมาก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรมฟื้นตัวได้ ประเด็นสุดท้ายก็คือธนาคารพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่จะประกาศงบไตรมาส 4/2562 ในสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์ของเราคาดว่ากำไรสุทธิรวมของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้น 18% YoY แต่ลดลง 5% QoQ

ประเด็นการลงทุนและปัจจัยสำคัญ:

(เป็นกลางกับตลาด) – ตัวแทนของสหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงทางการค้าเฟสแรก: เราคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงทางการค้าระหว่างวันที่ 13-15 มกราคมในวอชิงตัน และเรายังเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มต้นเจรจาเฟสที่สองต่อไปในไม่ช้า แต่อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าประเด็นนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบ
กับตลาดมากนัก เพราะนักลงทุนตอบรับข่าวนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อตกลงเฟสแรกนี้จะทำให้ไม่มีการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าในระยะต่อไป และมีการสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้น ดังนั้น ปัจจัยที่ต้องจับตาดูต่อไปก็คือภาวะเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าได้หรือไม่

(เป็นบวกกับตลาด) – สภาอนุมัติ พรบ. งบประมาณปี 2563 ซึ่งน่าจะทำให้ความเชื่อมั่นในประเทศผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว: ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรของไทยลงมติเห็นชอบร่าง พรบ.งบประมาณปี 2563 ซึ่งจะยุติปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนภาครัฐที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน
นอกจากนี้ยังจะเป็นสัญญาณว่าความเชื่อมั่นในประทศผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วท่ามกลายปัจจัยมหภาคโลกที่ดูสดใสมากขึ้นในไตรมาส 1/2563 ขณะเดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 68 เดือน แต่เราเชื่อว่า CCI น่าจะกำลังผ่านจุดต่ำสุดจากนี้ไป จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น

กลยุทธ์การลงทุน ธีมการเลือกหุ้น:

ปรับพอร์ตให้สมดุลกันระหว่างหุ้น cyclical และหุ้นเชื่อมโยงปัจจัยในประเทศ: เนื่องจากข่าวบวกของปัจจัยมหภาคโลกยังมีอยู่ ขณะที่การผ่านร่างพรบ. งบประมาณปี 2563 น่าจะเป็นสัญญาณว่าความเชื่อมั่นภายในประเทศน่าจะอยู่ที่ช่วงต่ำสุดแล้ว ธีมหุ้นของเราจึงผสมผสานทั้งหุ้น cyclical play อย่างเช่น หุ้นโรงกลั่น (ESSO* และ SPRC*) และหุ้นในประเทศที่ถูกเทขายหนักอย่างเช่นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรม (CK*, AMATA* และ WHA*) สำหรับหุ้นกลุ่มการพาณิชย์ เราคิดว่าราคาหุ้นอาจจะยังทรงตัวในกรอบแคบๆ อีกระยะหนึ่ง เพราะนักลงทุนยังคงจับตาประเด็นสำคัญของกลุ่ม ได้แก่การ IPO ของ บมจ. Central Retail Corporation และการขายหุ้น Tesco ในประเทศไทยและมาเลเซียให้กับผู้ลงทุนรายใหม่