'ไฟป่า' ฉุดคะแนนนิยมนายกฯออสเตรเลียดิ่งเหว

'ไฟป่า' ฉุดคะแนนนิยมนายกฯออสเตรเลียดิ่งเหว

ความล้มเหลวในการรับมือวิกฤติไฟป่าในออสเตรเลียฉุดคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ร่วงหนัก ผลโพลล่าสุดชี้เกือบ 60% ไม่พอใจผลงาน

“นิวส์โพล” เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในออสเตรเลียวันนี้ (13 ม.ค.) พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวออสเตรเลีย 59% ไม่พอใจผลงานโดยรวมของนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ผู้นำพรรคอนุรักษนิยม ขณะที่ประชาชนเพียง 37% พอใจผลงานของเขา ถือเป็นความนิยมที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ นับตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้งในเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว

นายมอร์ริสัน ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการตอบสนองล่าช้าต่อวิกฤติไฟป่าอันยาวนานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงการพาครอบครัวไปพักร้อนที่เกาะฮาวายขณะที่ไฟป่าในประเทศยังลุกลาม การออกแถลงการณ์อันสับสนเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาล และบังคับเหยื่อไฟป่าที่รู้สึกโกรธแค้นให้จับมือกับเขาระหว่างการลงพื้นที่

“ความเสียหายต่อคะแนนนิยมส่วนตัวของนายมอร์ริสันทำให้คะแนนพึงพอใจลดลง 8% มาอยู่ที่ 37% และเพิ่มคะแนนต่อต้าน 11% เป็น 59%” นายวิลเลียม โบว์ นักวิเคราะห์โพลกล่าว

อ่านข่าว-ไฟป่าออสเตรเลีย' สะเทือนท่องเที่ยว-ปศุสัตว์

จุดเริ่มต้นแห่งหายนะคะแนนนิยมดิ่งเหวของผู้นำออสเตรเลีย เกิดจากการที่เขายืนกรานว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีทรัพยากรเพียงพอในการรับมือไฟป่าและบรรดาอาสาสมัครดับเพลิงต่างต้องการที่จะอยู่ต่อสู้กับไฟป่าที่นั่น

นอกจากนี้ นายมอร์ริสันยังกล่าวซ้ำหลายครั้งว่า ออสเตรเลียดำเนินมาตรการมากเกินพอที่จะบรรลุเป้าลดมลภาวะของตน จนเกิดการประท้วงใหญ่บนท้องถนนทั่วประเทศหลายครั้ง

เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียยืนยันว่า ขณะนี้ พื้นที่ไฟป่าที่ลุกลามมานานหลายเดือนมีขนาดกว่า 70 ล้านไร่ เทียบเท่าประเทศเกาหลีใต้หรือเกือบครึ่งหนึ่งของสหราชอาณาจักร

ผลสำรวจคะแนนนิยมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายมอร์ริสันประกาศตั้งกองเยียวยาไฟป่ามูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และเรียกทหารกองหนุน 3,000 นายออกมาสนับสนุนเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการตอบสนองที่หลายฝ่ายมองว่าล่าช้าเกินไป

เมื่อวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) นายมอร์ริสัน กล่าวว่า เขาจะเสนอรัฐสภาจัดตั้งคณะกรรมาธิการสืบสวนไฟป่าแห่งชาติ รวมถึงตรวจสอบการตอบสนองวิกฤติ บทบาท และอำนาจของรัฐบาลกลาง และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

หลังไฟป่าถูกโหมด้วยลมที่พัดไม่สม่ำเสมอและอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสนานหลายสัปดาห์ สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า